นายทนง โชติสรยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ซีเอ็ดยูเคชั่น (SE-ED) เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดว่ารายได้ในปีนี้จะลดลงเหลือ 4-4.1 พันล้านบาท ลดลงจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 4.1-4.3 พันล้านบาท เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลให้ผู้บริโภคมีอัตราการเช่าศูนย์การค้าลดลง และชะลอการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งส่งผลให้ยอดขายของบริษัทฯที่ส่วนใหญ่อยู่ในห้างชะลอตามไปด้วย และจะเห็นได้จากผลประกอบการในไตรมาส 2/50 รายได้ลดลง
นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทฯยังไม่มีรายได้พิเศษจากการขาย เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ที่จะมีรายได้พิเศษจากการขายเสื้อนาโน หรือหนังสือครบรอบ 60 พรรษาของในหลวง แต่อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่า ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ สถานการณ์จะคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งในช่วงที่รอสถานการณ์ได้เปิดสาขา และเพิ่มจำนวนสินค้า เพื่อให้ยอดขายของบริษัทฯสูงขึ้น
โดยสาขาในปีนี้จะทำการเปิดมากกว่า 45 สาขา เน้นไปที่ต่างจังหวัด ในส่วนของอำเภอต่าง ๆ ปีนี้ ซึ่งมากกว่าที่ทุกปีที่จะเฉลี่ยเปิดสาขา 20-30 สาขา โดยปีนี้คาดว่าจะใช้งบฯ 50-80 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะนำมาจากเงินทุนหมุนเวียน
ส่วนเพิ่มสินค้าให้หลากหลายมากขึ้น ก็จะเป็นหนังสือเรียนภาษาอังกฤษ และกลุ่ม Non book :ซึ่งจะให้มาร์จินที่ดีและจะช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงครึ่งปีหลังด้วย
นายทนง กล่าวยอมรับว่า ในช่วงครึ่งปีแรกกำไรของบริษัทฯลดลง เพราะมีค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการลงทุนสูงกว่าปกติ เมื่อเทียบกับยอดขาย แต่ค่าใช้จ่ายดังกล่าวส่วนใหญ่จะเป็นการขยายสาขาเพื่อรองรับการเติบโตในปีหน้า(2551) ซึ่งเชื่อว่าปีหน้ายอดขายของบริษัทฯจะเติบโตก้าวกระโดดจากปีนี้แน่นอน
ขณะเดียวกันในส่วนของกำไร บริษัทก็จะพยายามเร่งให้มีกำไรในช่วงครึ่งปีหลังไม่น้อยกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา จากการเพิ่มสินค้า จึงเชื่อว่ากำไรในปีนี้น่าจะรักษาให้มีระดับที่ใกล้เคียงกับปีก่อน(2549)ที่ 200 ล้านบาท
ส่วนการที่แกรมมี่ฯเข้ามาถือหุ้นบริษัทฯ นายทนง มองว่า ทางแกรมมี่จะใช้ซีเอ็ดเป็นช่องทางในการขายสินค้า ไม่ว่าจะเป็นเพลงบรรเลง ซึ่งก็จะช่วยกระตุ้นยอดขายโดยรวมของบริษัทฯปรับตัวดีขึ้นได้ และมองว่าการที่แกรมมี่เข้ามาถือหุ้นไม่ได้มีเจตนาที่จะครอบงำซีเอ็ด แต่เป็นการลงทุน และเชื่อว่าเป็นการลงทุนระยะยาว แม้จะส่งคนมานั่งในตำแหน่งกรรมการ โดยแผนการบริหารงานบริษัทฯไม่ได้มีการปรับเปลี่ยน
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/พรเพ็ญ โทร.0-2253-5050 ต่อ 313 อีเมล์: pornpen@infoquest.co.th--