ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 742.28 จุด ลดลง 31.64 จุด(-4.09%) มูลค่าการซื้อขาย 11,611.31 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยร่วงแรงตั้งแต่เปิดเทรด และอยู่ในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 756.01 จุด และทรุดตัวลงหนักแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 741.64 จุด
นายวีระชัย ครองสามสี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ร่วงแรง ตามตลาดหุ้นทั่วโลก เหตุจากซับไพร์มลุกลามไปหลายประเทศมากขึ้น โดยล่าสุดธนาคารมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป อิงค์ สถาบันการเงินของญี่ปุ่น ได้ขาดทุน 42.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นผลจากซับไพรม์ด้วย และกองทุนเซนนิเทล เมเนจเมนท์ ได้แจ้งลูกค้าให้ชะลอการไถ่ถอนหน่วยลงทุน ซึ่งมีผู้มาขอไถ่ถอนถึง 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
นอกจากนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ)ได้อัดฉีดเงินเข้าสู่ตลาดเงิน 4 แสนล้านเยนในวันนี้ ทั้งนี้ หลายประเทศได้ทำการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบเพื่อช่วยเหลือแต่ก็ยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้
ที่จริงเรื่องของซับไพร์มไม่ได้มีการขยายไปในวงกว้างมากนัก แต่ในแง่ของจิตวิทยาได้ส่งผลกระทบทำให้คนวิตกแล้วไปไถ่ถอนหน่วยลงทุนกันมาก ทำให้กองทุนขายหุ้นออกมา ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดตัวรุนแรง อย่างดาวโจน์ก็ได้หลุดระดับ 13,000 จุดก็เป็นผลในแง่ลบต่อการลงทุน
นายวีระชัย กล่าวอีกว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ปรับตัวลง 150 จุดหรือกว่า 10% แล้ว จากระดับ 895 จุด ลงมาเหลือ 744 จุดในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงที่ค่อนข้างหนัก แสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนได้หดไปในช่วงนี้ แต่เชื่อว่านักลงทุนบางส่วนยังรอหาจังหวะซื้อหุ้น หากการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 19 ส.ค.นี้ผ่านไปได้
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ คาดว่าตลาดฯยังปรับตัวลงต่อได้ โดยการปรับตัวลงอาจจะจำกัดบ้างแล้ว ซึ่งมองแนวรับที่ 740 จุดเป็นจุดที่น่าซื้อหุ้นได้บางส่วน แต่หากตลาดฯยืนไม่ได้ที่ระดับ 740 จุด ก็มีโอกาสที่จะปรับตัวลงไปทดสอบแนวเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ระดับ 725 จุด
ด้านนายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้บังคับบัญชาสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ร่วงแรง ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับซับไพร์ม ทำให้คนไปไถ่ถอนหน่วยลงทุนกันมาก ส่งผลให้บรรดากองทุนจะต้องขายหุ้นออกมาเพื่อที่จะได้ถือครองเงินสดมากเพียงพอที่จะรองรับการไถ่ถอนหน่วยลงทุนของผู้ลงทุน
ทั้งนี้ เชื่อว่าในช่วงบ่ายนี้ตลาดหุ้นไทยจะยังคงปรับตัวลงต่อ พร้อมแนะนำไม่ต้องรีบร้อนซื้อหุ้นในช่วงนี้
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,144.41 ล้านบาท ปิดที่ 264.00 บาท ลดลง 10.00 บาท
TTA มูลค่าการซื้อขาย 703.43 ล้านบาท ปิดที่ 41.25 บาท ลดลง 4.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 589.91 ล้านบาท ปิดที่ 244.00 บาท ลดลง 16.00 บาท
RRC มูลค่าการซื้อขาย 532.55 ล้านบาท ปิดที่ 22.20 บาท ลดลง 0.50 บาท
TOP มูลค่าการซื้อขาย 501.87 ล้านบาท ปิดที่ 72.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--