นายยาโชวาดัน โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืน บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) เปิดเผยว่า บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส โกลบอล เซอร์วิสเซส จำกัด (IVGS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้รับวงเงินสินเชื่อสีน้ำเงิน หรือสินเชื่อเพื่อธุรกิจที่สนับสนุนการรักษาสภาพแวดล้อมและทรัพยากรทางทะเลให้แก่ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกระดับโลกเพื่อทำการรีไซเคิลขวด PET (โพลีเอทิลีนเทเรฟทาเรต) 50,000 ล้านขวดทั่วโลกต่อปีภายในปี 68 ซึ่งครอบคลุมทั้ง 4 ประเทศในแถบเอเชียและหนึ่งประเทศในละตินอเมริกา เพื่อนำเอาขยะพลาสติกออกจากหลุมฝังกลบและมหาสมุทร
สำหรับเงินทุนสนับสนุนแห่งประวัติศาสตร์ครั้งนี้มีมูลค่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐที่จัดการโดยบรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (IFC) ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มธนาคารโลก โดยเงินทุนดังกล่าวจะช่วยให้ IVL เพิ่มขีดความสามารถในการรีไซเคิลในประเทศไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดียและบราซิล ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่ต้องต่อสู้กับขยะที่ไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมและประสบกับปัญหาขยะพลาสติกในสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง และจะถูกนำไปลงทุนโครงการพลังงานหมุนเวียนและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
"นับเป็นการอนุมัติสินเชื่อสีน้ำเงินครั้งแรกของ IFC ซึ่งมุ่งเน้นการจัดการมลพิษพลาสติกในทะเลโดยเฉพาะ สินเชื่อสีน้ำเงินเป็นนวัตกรรมเครื่องมือทางการเงินซึ่งมีการรับรองและติดตามเงินทุนที่ได้รับโดยเฉพาะสำหรับโครงการที่สนับสนุนเศรษฐกิจสีน้ำเงิน อาทิ การใช้ทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ การพัฒนาด้านการดำรงชีพและงาน และ ความสมบูรณ์ของนิเวศวิทยาทางทะเล"นายยาโชวาดัน กล่าว
นายยาโชวาดัน กล่าวว่า IVL กำลังดำเนินการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการรีไซเคิล ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการนำเอาขยะออกจากสิ่งแวดล้อมทางทะเล การรีไซเคิลขวด PET ที่เหลือทิ้งหลังการบริโภคให้กลายเป็นขวดใหม่คือการให้มูลค่าทางเศรษฐกิจแก่ขยะ อันจะเป็นการผลักดันให้เกิดการปรับปรุงในระบบจัดเก็บขยะ ซึ่งหมายถึงปริมาณขยะที่ลดน้อยลงและมหาสมุทรที่สะอาดขึ้น
อินโดรามา เวนเจอร์สตั้งเป้าหมายที่จะผลิตรีไซเคิล PET (rPET) อย่างน้อย 750,000 เมตริกตันจากทั่วโลกภายในปี 2568 คุณลักษณะเด่นของการลงทุนนี้คือการสร้างมูลค่าจากของเหลือทิ้ง อันได้แก่การแปรรูปขวด PET เหลือทิ้งหลังการบริโภคที่จะต้องถูกนำไปฝังกลบหรือถูกแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าต่ำลง ด้วยการส่งเสริมการรีไซเคิลเพื่อนำกลับมาผลิตเป็นขวดที่มีมูลค่าสูงกว่าซึ่งทำให้เกิดศักยภาพในการสร้างมูลค่าอย่างมีนัยสำคัญ
นายอัลฟอนโซ การ์เซีย โมรา รองประธาน IFC ประจำภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก กล่าวว่า สินเชื่อสีน้ำเงินนี้ช่วยเติมเต็มการทำงานอย่างต่อเนื่องของ IFC ในด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนสำหรับพลาสติกและยกระดับการจัดการขยะในเอเชีย โครงการนี้จะเป็นการสาธิตรูปแบบธุรกิจที่ใช้การรีไซเคิลเป็นมาตรการแทรกแซงเพื่อจัดการมลพิษพลาสติก ในขณะที่ให้การสนับสนุนประเด็นเรื่องความยั่งยืนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยรวมไปพร้อมกัน
นอกจากช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรีไซเคิลของ IVL ใน 5 ประเทศ สินเชื่อดังกล่าวจะช่วยให้บริษัท สามารถลงทุนในกิจกรรมที่เกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศอื่น ๆ ได้อีกด้วย โดย IVL จะดำเนินการติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่โรงงานในประเทศไทยและอินเดีย และจะขยายไปสู่โรงงานแห่งอื่นในลำดับต่อไป ในขณะเดียวกันบริษัทจะจัดหาพลังงานหมุนเวียนให้มากขึ้นเพื่อนำไปใช้ในโรงงานผลิตต่อไป ด้วยเงินสนับสนุนจาก IFC
IVL กำลังดำเนินการโครงการนำความร้อนเหลือทิ้งกลับมาใช้ใหม่ (Waste Heat Recovery: WHR) ที่โรงงานผลิตเส้นใยและ PET ของบริษัทในอินโดนีเซียซึ่งคาดว่ามาตรการประหยัดพลังงาน (Energy Efficiency: EE) จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของโรงงานได้มากถึง 25% นอกเหนือจากการพัฒนาโครงการนวัตกรรม WHR แล้ว IVL จะพัฒนาโครงการ EE ในบราซิลและโรงงานผลิตอื่น ๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์กร
แพ็คเกจเงินสนับสนุนของ IFC ประกอบด้วยเงินกู้ไม่ด้อยสิทธิ (Senior loan) จำนวน 150 ล้านเหรียญสหรัฐจาก IFC และเงินกู้แลกเปลี่ยนกับกิจการอื่น (Parallel loan) จำนวน 150 ล้านเหรียญสหรัฐจากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) และ Deutsche Investitions-und Entwicklungsgesellschaft (DEG) IFC ยังร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับธนาคารโลกเพื่อประโยชน์ด้านความร่วมมือระหว่างภาครัฐ-เอกชนและจัดทำนโยบายและการลงทุนต่าง ๆ ที่จำเป็นอย่างยิ่งในการจัดการปัญหามลพิษพลาสติกทางทะเลที่มีความซับซ้อน