(เพิ่มเติม) NOBLE คาด H2 มีรายได้ราว 1.8 พันลบ.จาก 700 ลบ.ใน H1, ทั้งปี 2.5 พันลบ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 15, 2007 13:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) คาดปี 50 ยังมีรายได้ตามเป้าที่ 2.5 พันล้านบาท โดยคาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปีจะมีรายได้ประมาณ 1.8 พันล้านบาท จาก 700 ล้านบาทในครึ่งปีแรก เนื่องจากบริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่รวม 4 โครงการในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ มูลค่ารวม 6.7 พันล้านบาท และยังมีรายได้ที่รอรับรู้จากงานในมือขณะนี้อีกส่วนหนึ่ง
บริษัทยังตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ปีละ 10-15% ซึ่งจะทำให้รายได้ในปี 51 เพิ่มเป็น 2.8 พันล้านบาท โดยได้ตั้งงบลงทุนซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยปีละ 1-1.5 พันล้านบาท ส่วนปีนี้ตั้งงบซื้อที่ดิน 2 พันล้านบาท ใช้ไปแล้ว 1.3 พันล้านบาท เหลืออีก 700 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้บริษัทมีที่ดินในมือที่รอพัฒนาประมาณ 50 ไร่
นายธงชัย บุษราพันธ์ กรรมการผู้จัดการ NOBLE กล่าวว่า โครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง จำนวน 4 โครงการ เป็นโครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการและ บ้านเดี่ยว 1 โครงการ ประกอบด้วย โครงการ NOBLE REFLEX ที่จะเปิดขายในวันที่ 18 ส.ค.และ NOBLE NANO ย่านพัฒนาการจะเปิดตัว 27 ส.ค.นี้ ส่วนโครงการ NOBLE SONO และ NOBLE FLOW จะเปิดตัวในระยะต่อไป
"บริษัทยังคงเน้นคอนโดฯ เนื่องจากมีสัดส่วนที่ดีกว่า โดยมุ่งสร้างคอนโดฯระดับราคา 2 ล้านบาทขึ้นไป" นายธงชัย กล่าว
สำหรับโครงการบ้านเดี่ยวนั้น ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่พร้อมขายในมือประมาณ 51 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าโครงการประมาณ 1.5 พันล้านบาท หากขายจะรับรู้รายได้ทันทีและคาดว่าจะขายหมด 1 ปีครึ่ง ถึง 2 ปี
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มขายบ้านเดี่ยวน่าจะดีขึ้น เนื่องจากดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ และหากการเมือง เศรษฐกิจนิ่งก็น่าจะดีขึ้น
ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ(backlog)รอรับรู้รายได้ประมาณ 3 พันกว่าล้านบาท คาดว่าหลังจากเปิดโครงการใหม่ NOBLE REFLEX ก็จะทำให้ backlog ของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 4 พันล้านบาท
ทั้งนี้ NOBLE REFLEX เป็นคอนโดมิเนียมติดกับสถานีรถไฟฟ้าอารีย์ เป็นห้อง studio และขนาด 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน จำนวน 20 ชั้น ทั้งหมด 205 ยูนิต ราคาเริ่มต้นห้องขนาด 39 ตร.ม. อยู่ที่ 2.9 ล้านบาท มูลค่าโครงการประมาณ 889 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างปลายปี 50 และคาดว่าจะแล้วเสร็จต้นปี 53
นายธงชัย กล่าวถึงเป้าหมายทางธุรกิจในอนาคตว่า บริษัทเตรียมพิจารณาปรับโครงสร้างรายได้ ด้วยการเพิ่มสัดส่วนกำไรจากค่าเช่าให้เป็น 1 ใน 4 ของกำไรรวม ภายใน 5 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่บริษัทมีกำไรจากค่าเช่าเพียงโครงการ"เพลย์กราวนด์"เพียงโครงการเดียว
ส่วนแนวทางการออกไปลงทุนต่างประเทศนั้น อาจจะพิจารณาในอนาคตหากมีความพร้อม ซึ่งอาจจะเป็นช่วง 1-2 ปีข้างหน้า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ