JCK-W6 ปิดเทรดวันแรกที่ 0.38 บาท มูลค่าซื้อขาย 150.97 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 0.22 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 0.41 บาท และราคาลงต่ำสุด 0.21 บาท
ขณะที่หุ้น JCK ปิดที่ 1.50 บาท ลดลง 0.04 บาท (-2.60%) มูลค่าซื้อขาย 61.02 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 1.56 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 1.56 บาท และราคาลงต่ำสุด 1.47 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.เจซีเค อินเตอร์เนชั่นแนล (JCK) หรือ JCK-W6 ที่ 0.70 บาท (BSM) อิงราคาหุ้นแม่ที่ 1.54 บาท โดยมีความผันผวนของหุ้นแม่ที่ 100% (ความผันผวนหุ้นแม่ในปีนี้อยู่ที่ 100% ซึ่งสูงกว่าปีก่อนที่ราว 40% หากใช้ค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 60% ซึ่งจะคิดเป็นมูลค่าที่เหมาะสม 0.38 บาท) ในด้านของต้นทุนผู้ได้รับ JCK-W6 อยู่ที่ 0.32 บาท (ราคาหุ้นปรับตัวลดลง 0.16 บาท และขึ้นเครื่องหมายในอัตราส่วน 2 : 1) ด้วยความผันผวนในช่วงที่ผ่านมาของ JCK ทำให้การประเมินมูลค่าของ JCK-W6 มี All-in Premium ที่ค่อนข้างสูงถึง 75% ในขณะที่ราคาหุ้น Out-of-The-Money อยู่ราว 23% ประกอบกับสภาพคล่องในการซื้อขายที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้มองว่าช่วงนี้ที่หุ้นแม่ยังมีความผันผวนสูง เป็นจังหวะที่ดีในการทำกำไร เนื่องจากหากความผันผวนเริ่มลดลงจะทำให้มูลค่าที่เหมาะสมลดลงเช่นกัน
พร้อมให้กรอบมูลค่าของ JCK-W6 ไว้ที่ 0.56-0.84 บาท เมื่อราคาหุ้น JCK เคลื่อนไหวในกรอบ 1.34-1.74 บาท โดยมี Volatilily 100% per year
JCK-W6 จำนวนที่ออก 1,073.37 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิม : 1 หลักทรัพย์แปลงสภาพ อัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 2.00 บาท อายุ 2 ปี โดยสามารถใช้สิทธิได้ในทุกวันทำการสุดท้ายของทุกไตรมาส (ใช้สิทธิได้ครั้งแรกในวันที่ 31 มี.ค. 2564 และหมดอายุในวันที่ 11 พ.ย. 2565)
JCK ประกอบธุรกิจหลักเกี่ยวกับการพัฒนาที่ดินประเภทนิคมอุตสาหกรรม และก่อสร้างโรงงานสำเร็จรูปมาตรฐาน เพื่อขาย และให้เช่า ในเขตโครงการนิคมอุตสาหกรรม และเขตส่งเสริมอุตสาหกรรม ทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ปัจจุบันบริษัทได้ขยายโอกาสทางธุรกิจและรายได้เพิ่มเติมจากการลงทุนในธุรกิจอาคารเช่าสำนักงาน และก่อสร้างคอนโดมิเนียม เพื่อพักอาศัย ในบริเวณย่านธุรกิจใจกลางกรุงเทพมหานคร