นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คอมเซเว่น (COM7) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 64 บริษัทคาดหวังว่ากำไรสุทธิจะทำสถิติสูงสุดใหม่ จากรายได้ที่คาดว่าจะเติบโต 10% โดยมีปัจจัยหนุนหลักจากยอดขาย iPhone 12 ที่น่าจะทำได้ดีดีต่อเนื่อง ประกอบกับเทคโนโลยี 5G ก็จะเข้ามาสนับสนุนให้อุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ ต้องมีการอัพเกรดขึ้น และหนุนความต้องการใช้งานมากขึ้นไปด้วย
ขณะที่ภาพรวมตลาดไอทีปี 64 ก็คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น หรืออาจจะบวกลบราว 5% ตามความมั่นใจของผู้บริโภคที่ฟื้นตัวดีขึ้น เป็นไปตามการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจ ซึ่งบริษัทก็เตรียมเปิดตัวแอปพลิเคชั่นที่พัฒนามาจากเว็บไซต์ www.bnn.in.th เพื่อรองรับการสั่งซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ ในลักษณะสั่งซื้อผ่านออนไลน์แล้วไปรับาสินค้าที่หน้าร้าน คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในไตรมาส 1/64 โดยบริษัทคาดหวังว่าภายใน 2 ปีจากนี้ หรือปี 66 จะมีสัดส่วนรายได้จากออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็น 10% จากปัจจุบันอยู่ที่ 5%
พร้อมกันนี้ยังวางงบลงทุนรวมไว้ที่ 400 ล้านบาท โดยบริษัทมีแผนเปิดสาขาใหม่อีก 100 สาขา ส่วนใหญ่จะอยู่ตามต่างจังหวัดราว 70-80% วางงบไว้ราว 3-10 ล้านบาท/สาขา ทำให้สิ้นปี 64 บริษัทจะมีสาขาเพิ่มเป็นกว่า 900 สาขา ขณะที่เงินลงทุนบางส่วนจะใช้ลงทุนในเรื่องของระบบฮาร์ดแวร์ ซอฟแวร์ ราว 40 ล้านบาท รวมถึงการฝึกอบรมบุคลากรด้วย
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้คาดว่ากำไรจะทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ระดับ 1,216.32 ล้านบาท ขณะที่รายได้ยังเติบโต โดยมีอัตรากำไรสุทธิกลับไปอยู่ในระดับปกติที่ 3% จากไตรมาส 3/63 ปรับตัวขึ้นมาอยู่ราว 4% เพราะเมื่อสถานการณ์โควิด-19 ได้ผ่อนคลายขึ้น ทำให้ต้องกลับมาจ่ายค่าเช่าในระดับเดิม หลังเจ้าของพื้นที่เช่าได้ปรับลดค่าเช่าลงช่วงหนึ่ง
ด้านยอดขายในไตรมาส 4/63 คาดว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ และหวังว่ากำไรสุทธิก็จะเป็นไปตามยอดขายที่เติบโตด้วย เป็นผลมาจาก เมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา COM7 ได้เปิดให้จองซื้อ iPhone 12 ล่วงหน้า ซึ่งมีลูกค้าให้ความสนใจจองซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก ส่งผลทำให้บริษัทมียอดจอง iPhone 12 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะเดียวกันยอดขาย iPhone 11 ก็ยังดีต่อเนื่องด้วย ทำให้เชื่อมั่นว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตไปตามเป้าหมายที่ 10%
ภาพรวมสาขาภายใต้การบริหารงานของกลุ่มบริษัท ณ สิ้นไตรมาส 3/63 บริษัทมีสาขารวมทั้งหมด 811 สาขา แบ่งเป็น BaNANA 257 สาขา Studio7 102 สาขา, KingKong Phone 96 สาขา,True Shop by Com7 121 สาขา,แฟรนไชส์ 97 สาขา, BKK 54 สาขา iCare 27 สาขา และอื่น ๆ 57 สาขา
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนในธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน โดยใช้จุดแข็งในด้านฐานลูกค้าที่ปัจจุบันมีอยู่ 2 ล้านราย และมีการซื้อสินค้าราว 2 ล้านชิ้น/ปี มาต่อยอดธุรกิจ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในไตรมาส 2/64