โบรกเกอร์ แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง (RT) จากเป็นผู้ประกอบการธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และมีปริมาณงานในมือ (Backlog) สูงราว 4,300 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้เข้ามาภายใน 2 ปี ขณะเดียวกันยังเตรียมเข้าประมูลงานอุโมงค์รถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ มูลค่า 15,000 ล้านบาท ที่จะเปิดประมูลในช่วงไตรมาส 1/64 คาดว่าจะได้งานไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ คาดว่ารายได้ของ RT ในปี 62-65 จะเติบโตได้ 15.8% ต่อปี และกำไรเติบโตเฉลี่ย 23.9% ต่อปี เป็นผลจากการรับรู้รายได้จากงานที่มีในมือ และจะมีงานใหม่เข้ามาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องจากงานประมูลโครงการโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่คาดว่าจะมีออกมาอย่างต่อเนื่อง
ช่วงบ่ายราคาหุ้น RT อยู่ที่ 2.04 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท หรือ 0.99% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย เพิ่มขึ้น 0.18%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) เคทีบี (ประเทศไทย) ซื้อ 2.70 จีเอ็มโอ-แซด คอม ซื้อ 2.98 ทรีนีตี้ ซื้อ 2.40
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า หลังจากได้เข้าไปเยี่ยมชมโครงการอุโมงค์รถไฟทางคู่มาบกะเบา-จิระ ที่ จังหวัดนครราชสีมา จึงได้มีการปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 2.70 บาท จากเดิมที่ 2.20 บาท ด้วยความที่ RT เป็นผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง คือ ด้านธรณีเทคนิคที่ต้องใช้ความชำนาญสูง ต่างจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างรายอื่น ๆ
ขณะที่ปัจจุบัน RT ยังมีปริมาณงานในมือ (Backlog) ที่ราว 4,300 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาภายในระยะเวลาราว 2 ปี ขณะเดียวกันก็เตรียมจะเข้าประมูลงานในปี 64 มูลค่ารวม 24,000 ล้านบาท โดยมีโครงการที่สำคัญ คือ อุโมงค์รถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ มูลค่า 15,000 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดประมูลในช่วงไตรมาส 1/64 คาดว่า RT จะได้งานไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท
"หลังจากที่เราได้เข้าเยี่ยมชมโครงการของ RT แล้ว เห็นว่ามี Backlog เพิ่มขึ้นและเป็นธุรกิจที่ดี เพราะมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางแตกต่างจากบริษัทรับเหมาอื่นๆ และในปีหน้ายังคงมีงานออกมาอย่างต่อเนื่องด้วย ในขณะเดียวกันยังเป็นบริษัทที่มีความร่วมมือกันที่ดีกับ ITD และ CK ที่มีโอกาสได้รับงานเพิ่มต่อเนื่องด้วย"นายมงคล กล่าว
ด้าน บล.จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ คาดว่า RT จะรายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 4/63 ต่ำลงเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 3/63 และช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากจะไม่มีการบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสูงเหมือนช่วงไตรมาส 3/63 ขณะเดียวกันก็จะมีการบันทึกค่าใช้จ่ายจากการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
อย่างไรก็ตาม ทิศทางกำไรสุทธิทั้งปี 63 ของ RT จะเติบโต 88% มาที่ 245 ล้านบาท และในปี 64 จะมีกำไรสุทธิ 251 ล้านบาท หรือเติบโต 2% จากที่ปัจจุบันมีงานในมือ มูลค่า 4,265 ล้านบาท โดยจะสามารถรับรู้รายได้ในปี 64 ราว 2,625 ล้านบาท และจะมีอัตรากำไรขั้นต้นในระดับสูงได้ด้วย เนื่องจากเป็นงานที่มีความชำนาญสูงและสามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นได้ดีกว่าในอดีต
นอกจากนี้ RT คาดว่างานประมูลงานก่อสร้างอุโมงค์ 4 อุโมงค์ คือ รถไฟทางคู่สายเหนือ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ความยาวอุโมงค์รวมราว 13.9 กิโลเมตร ของ การรถไฟแห่งประเทศไทย มูลค่าโครงการเบื้องต้น 15,000 ล้านบาท จะมีความชัดเจนเรื่องการเปิดประมูลในช่วงไตรมาส 1/64 ซึ่งเป็นบวกต่อโอกาสเข้าร่วมงานประมูล และคาดว่า RT จะสามารถชนะการประมูลในบางสัญญาจากความชำนาญในการก่อสร้างอุโมงค์และคาดว่าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเหนือ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ จะช่วยเติม Backlog ในระดับสูงที่จะรับรู้ในอนาคตอีกด้วย
ขณะที่บทวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า แนวโน้มรายได้ของ RT ในปี 62-65 จะเติบโตได้ 15.8% ต่อปี และกำไรเติบโตเฉลี่ย 23.9% ต่อปี โดยเป็นผลมาจากการที่บริษัทรับรู้รายได้จากงานที่มีอยู่ในมือ และจะมีงานใหม่ ๆ ที่เข้ามาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องจากการลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่จะมีออกมา
นอกจากนี้ RT ยังมีปัจจัยหนุนจากการที่ได้รับเงินจากการเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เพื่อที่จะนำไปพัฒนาโครงการในอนาคตและเพิ่มมูลค่าของบริษัท โดยการการลงทุนในระบบคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และซอฟต์แวร์สำหรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ และการลงทุนซื้อเครื่องจักร ยานพาหนะและเครื่องมืออุปกรณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการทำงาน รวมถึงก่อสร้างโรงซ่อมและอาคารเก็บวัสดุแห่งใหม่เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ