นางสาวภัทร์ภูรี ชินกุลกิจนิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชีและยุทธศาสตร์องค์กร บมจ.บีซีพีจี (BCPG) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ปี 64 จะเติบโต 30-40% ตามการเติบโตของโรงไฟฟ้าในพอร์ต แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ สปป.ลาว ที่คาดจะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น จากปีนี้ได้รับผลกระทบในเรื่องของภัยแล้ง, การปรับขึ้นค่าไฟฟ้าในประเทศฟิลิปปินส์, การเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวม 20 เมกะวัตต์ โดยการซื้อหุ้น 99.99% ในบริษัท อาร์พีวี พลังงาน จำกัด (RPV) ก็จะรับรู้รายได้เข้ามาเต็มปี
ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นเตรียมจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้แก่ โครงการโคมากาเนะ (Komagane) กำลังการผลิต 25 เมกะวัตต์ คาด COD ในไตรมาส 3/64, โครงการยาบูก (Yabiki) กำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ คาด COD ครึ่งปีหลังของปี 64, โครงการชิบะ 1 (Chiba 1) กำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ คาด COD ในไตรมาส 3/64 ส่วนโครงการชิบะ 2 (Chiba 2) กำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์ จะ COD ในครึ่งปีหลังของปี 65 ด้านโรงไฟฟ้าในประเทศอินโดนีเชีย อาจจะติดลบเล็กน้อยจากการล็อกดาวนประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างมองหาการลงทุนเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในโรงไฟฟ้าใหม่ๆ (New acquisition) เพื่อเข้ามาสนับสนุนผลการดำเนินงานในปี 64 (ปัจจุบันยังไม่ได้สรุป) โดยวางงบลงทุนปีหน้าไว้ราว 18,000 ล้านบาท ซึ่งหลักๆ จะใช้ใน Operating Asset การเข้าซื้อกิจการ ที่สามารถรับรู้รายได้เข้ามาทันที และการพัฒนาโครงการที่ดำเนินการก่อสร้างอยู่อย่างต่อเนื่อง เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานลม (SWAN) กำลังการผลิต 600 เมกะวัตต์ เป็นต้น
ส่วนในปี 63 บริษัทมั่นใจ EBITDA จะเติบโต 20% ตามเป้าหมาย จาก 9 เดือนที่ผ่านมา EBITDA เติบโตไปแล้วกว่า 30% หรือมาอยู่ที่ 2,818.3 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหลักมาจากการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในสปป.ลาว ทั้ง Nam San 3A และ Nam San 3B เต็มไตรมาสเป็นครั้งแรก ขณะเดียวกันก็คาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/63 ก็จะเติบโตต่อเนื่อง เป็นไปตามการรับรู้รายได้ในช่วงฤดูกาล (High season) ของการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำดังกล่าว
อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าการเติบโตของ EBITDA เฉลี่ยต่อปีที่ 13-15% ไปจนถึงปี 68 จากการลงทุนทั้งใน Inorganic และ Organic โดยวางงบลงทุนรวมภายใน 5 ปี (64-68) ไว้ราว 40,000 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทฯ มี PPA อยู่ที่ 861.9 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น COD แล้ว 472.1 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์, โรงไฟฟ้าพลังงานลม, โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ และอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการอีก 389.8 เมกะวัตต์ ครอบคลุมใน 6 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ฟิลิปปินส์ และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม