นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้แต่ไม่มาก โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ ขานรับพัฒนการวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เป็นหลักในช่วงนี้ หลังไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) เพื่อขออนุมัติการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 และยังยื่นเรื่องต่อสำนักงานยาแห่งยุโรป (EMA) เพื่อขออนุมัติการจำหน่ายวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ด้วย ทำให้มีโอกาสที่จะมีการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ได้อย่างเร็วปลายปีนี้
อย่างไรก็ดี ตลาดบ้านเรามีปัจจัยที่จะติดตามในวันนี้ จากการที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กรณีที่ใช้บ้านพักทหารหลังจากเกษียณอายุราชการแล้วในช่วงบ่าย และให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) หรือ ศบศ. ที่จะมีการพิจารณาโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2
นอกจากนี้ ยังต้องติดตามผลการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร (โอเปพลัส) ในสัปดาห์นี้ด้วย เพราะมีผลต่อราคาน้ำมัน และหุ้นในกลุ่มพลังงาน ซึ่งตลาดบ้านเรามีน้ำหนักในกลุ่มพลังงานอยู่ค่อนข้างมาก ทำให้ตลาดฯคงจะขึ้นได้ไม่มากเพราะต้องการรอดูผลประชุมก่อน
พร้อมให้แนวรับ 1,408-1,400 จุด ส่วนแนวต้าน 1,430-1,435 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (1 ธ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,823.92 จุด เพิ่มขึ้น 185.28 จุด (+0.63%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,662.45 จุด เพิ่มขึ้น 40.82 จุด (+1.13%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,355.11 จุด เพิ่มขึ้น 156.37 จุด (+1.28%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.58 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 97.45 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 102.44 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 84.84 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 11.63 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 8.62 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.23 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (1 ธ.ค.63) 1,420.87 จุด เพิ่มขึ้น 12.56 จุด (+0.89%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 556.43 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.63
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.64 ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (1 ธ.ค.63) ปิดที่ 44.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 79 เซนต์ หรือ 1.7%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (1 ธ.ค.63) อยู่ที่ 0.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.23 แข็งค่าตามตลาดโลก หลังดอลล์อ่อน-ลุ้นศาลตัดสินคดีนายกรัฐมนตรี
- พาณิชย์ เผยผลศึกษาเอฟทีเอไทย-อียู พบจะช่วยดันจีดีพีโต 1.28% มูลค่า 2.05 แสนล้านบาทต่อปี ส่วนส่งออกไปอียูเพิ่ม 2.83% ทำคนจนลด 2.7 แสนคน รายได้เกษตรกรเพิ่ม 1.1% ด้านหอการค้าไทยสรท.ชี้ แม้ช้ากว่าเวียดนามแต่ช่วยรักษาฐานตลาดได้ แนะเร่งแก้ปมแรงงาน ยา พันธุ์พืช ทรัพย์สินทางปัญญา
- ปตท.เร่งแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน 2.5 หมื่นตำแหน่ง จูงใจ พนักงานเที่ยว อัดลงทุน ชงบอร์ด ธ.ค.นี้ เคาะงบปีหน้า "สุพัฒนพงษ์" มั่นใจเศรษฐกิจฟื้น ลุยต่อยอดคนละครึ่ง พัฒนาแพลตฟอร์มค้าออนไลน์
- กรุงศรีฯ ส่องค่าเงินบาท แข็งค่าต่อเนื่องถึงปีหน้าแตะ 29.25 บาทต่อดอลลาร์ สวนทางดอลลาร์อ่อนต่อเนื่อง ด้านผู้ส่งออกแห่ป้องกันความเสี่ยงค่าเงินพุ่งทะลุ 70% เพิ่มขึ้นในรอบ 2 ปี
- นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน กล่าวถึงโครงการรถแลกแจกแถม ว่า ในฐานะที่กำกับกระทรวงการคลัง เห็นว่าโครงการยังไม่มีความพร้อม และยังไม่ได้มีความชัดเจนใด ๆ ออกมา ขณะเดียวกันในด้านของรายละเอียดนั้น ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ดูผลกระทบอย่างรอบด้าน จึงน่าจะต้องพักเอาไว้ก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสน แต่ในรายละเอียดเพิ่มเติมของโครงการนี้ คงต้องไปถามกระทรวงอุตสาหกรรมอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร
- คนละครึ่งเฟส 2 มาแล้ว คลังชงศบศ.ต่ออายุมาตรการเริ่มต่อเนื่องทันทีตั้งแต่ 1 ม.ค.2564 พร้อมเปิดลงทะเบียนกลุ่มใหม่ปลายเดือนธ.ค. คาดว่าไม่ถึง 10 ล้านคน ส่วนผู้ได้สิทธิ์เดิมเตรียมกดปุ่ม 'ยืนยันการใช้สิทธิ์' เพื่อรับเงินอุดหนุนต่อ
*หุ้นเด่นวันนี้
- SISB (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 12 บาท แนวโน้มกำไร Q4/63 คาดกลับสู่ระดับปกติที่ราว 55-60 ล้านบาท ต่อไตรมาสจากการช่วยเหลือผู้ปกครองที่หมดลง โดยคาดกำไรปี 2563 -32% Y-Y ก่อนฟื้นตัวแรง +75% Y-Y ในปี 2564 ทำ New High พร้อมตั้งเป้ารับนักเรียนเพิ่มอีก 200 คนในปีหน้า ส่วน Capacity ใหม่ของสาขาธนบุรีราว 600 คนจะเข้ามาในเดือน ส.ค. 2564 ขณะที่สาขานนทบุรีคาดเปิดให้บริการ ส.ค. 2565 ซึ่งมี Demand และศักยภาพสูงรองรับการเติบโตระยะยาว
- IVL (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 35 บาท ได้ Sentiment บวกเศรษฐกิจจีนฟื้นโดยเฉพาะดัชนี PMI ภาคการผลิตเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 ปี คาดหนุนดีมานด์ปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นเนื่องจากจีนเป็นผู้ใช้ปิโตรเคมีรายใหญ่ของโลก
- MTC (เคทีบี) เป้าเชิงกลยุทธ์ 60.00 บาท สินเชื่อเติบโตจากการขยายสาขา ด้าน NPL ในปี 2564 มีโอกาสลดลง โดยในปี 2563 บริษัทขยายสาขาได้เกินกว่าเป้า ส่วนปี 2564 ผู้บริหารคาดสินเชื่อ โต 20-25%YoY และยังได้อานิสงส์ของเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว ส่วน NPL ก็มีโอกาสลดลง เบื้องต้นประเมิน NPL ปี 2564 ไว้ที่ระดับ 1.3% นอกจากนี้ ครม.เพิ่มวงเงินประกันรายได้ข้าวปี 63/64 เป็นผลดีกับลูกหนี้เกษตรกร และยังเพิ่มโอกาสในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ พร้อมประเมินกำไรสุทธิของ MTC ในปี 2563-2564 ที่ 5.1 พันล้านบาท และ 6 พันล้านบาท เติบโต +21%YoY, +18%YoY