นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าผลการดำเนินงานปี 64 จะกลับมาเติบโตเท่ากับปี 62 ที่มีรายได้รวม 2.23 แสนล้านบาท เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่น่าจะฟื้นตัวดีขึ้น และความหวังของวัคซีนโควิด-19 ส่งผลดีต่อทุกกลุ่มธุรกิจที่กระจายตลาดไปทั้งในไทย, เวียดนาม และอิตาลี ซึ่งกลยุทธ์หลักในปีหน้า บริษัทจะมุ่งเน้นการรุกตลาดออนไลน์มากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้จากออนไลน์เป็น 10-15% จากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 8% หรือคิดเป็นการเติบโตเกือบ 200% ต่อไตรมาส
ทั้งนี้ บริษัทมีแนวทางการขยายธุรกิจ ด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์ม Omnichannel เพื่อนำเสนอรูปแบบค้าปลีกที่แปลกใหม่ พร้อมมอบประสบการณ์ที่หลากหลาย และสะดวกรองรับไลฟ์สไตล์ยุค NEW NORMAL ของลูกค้าทุกกลุ่มในประเทศไทย ขณะเดียวกันจะต่อยอดไปยังธุรกิจต่างประเทศ เช่น บริการออนไลน์ที่จะเปิดตัวที่รีนาเชนเต ประเทศอิตาลี ในเดือนมิ.ย.64
ปัจุบันธุรกิจของ CRC แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.กลุ่ม Food มีสัดส่วนรายได้ที่ 45% 2.กลุ่ม Fashion มีสัดส่วนรายได้ที่ 25% และ 3.กลุ่ม Hardline มีสัดส่วนรายได้ที่ 30% โดยมีการดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ประกอบด้วย ประเทศไทย มีสัดส่วนรายได้ที่ 72%, ประเทศเวียดนาม มีสัดส่วนรายได้ 24% และประเทศอิตาลี มีสัดส่วนรายได้ 4%
"เราวางยุทธศาสตร์ในระยะยาวที่จะเติบโต ทั้งรายได้และกำไรอย่างยั่งยืน ด้วยแพลตฟอร์ม Customer-Centric Omni channel ที่มีรูปแบบหลากหลาย ทั้ง Multi-Category, Multi-Format และ Multi-Market เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว"นายญนน์ กล่าว
นายญนน์ กล่าวอีกว่า บริษัทจะดำเนินการปรับปรุงกระบวนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพในทุกหน่วยงาน ดำเนินการบริหารจัดการการเงินเพื่อรักษาสภาพคล่อง และเน้นการลงทุนขยายสาขา Strategic Growth Projects ทั้งในและนอกประเทศ เช่น ไทวัสดุ, โรบินสัน ไลฟ์ สไตล์ เซ็นเตอร์ และ GO! เวียดนาม เพื่อเติบโตตามเป้าหมายในอนาคตต่อไป
ทั้งนี้ บริษัทวางงบลงทุนรวมไว้ที่ 10,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายสาขาทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ พร้อมทั้งลงทุนซื้อที่ดิน พัฒนาระบบเทคโนโลยีให้มีความทันสมัย และใช้ในการพัฒนาบุคลากรให้มีความสามารถเพิ่มขึ้น รวมถึงการลงทุนซื้อกิจการ (M&A) เข้ามาเพิ่มเติมด้วย
นายญนน์ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ย.63 บริษัท พีบีเอชดี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยได้ยื่นคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของ บมจ.ซีโอแอล (COL) จำนวน 640 ล้านหุ้น คิดเป็น 100% ของจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของกิจการ ในราคาหุ้นละ 19 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 12,160 ล้านบาท ระยะเวลารับซื้อตั้งแต่ 27 พ.ย.63-4 ก.พ.64 หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการดังกล่าวภายในช่วงไตรมาส 1/64 ก็คาดว่าจะช่วยหนุนผลการดำเนินงานของ CRC เติบโตได้อีกประมาณ 4-5%
สำหรับวัตถุประสงค์ในการทำคำเสนอซื้อ COL ครั้งนี้ คาดว่าจะทำให้การประกอบธุรกิจค้าปลีกของ CRC มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพราะจะสามารถขยายขอบเขตธุรกิจและกลุ่มสินค้าไปยังธุรกิจค้าปลีกเฉพาะทาง ประกอบกับแบรนด์ "ออฟฟิศเมท" มีฐานลูกค้าหลักเป็นกลุ่มลูกค้าองค์กร (B2B) ด้วยการจัดจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางศูนย์บริการทางโทรศัพท์ (Call Center) และช่องทางออนไลน์สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กร (Online B2B) ก็จะทำให้สามารถต่อยอดการจัดจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีกของ CRC เช่น ไทวัสดุ และเพาเวอร์บาย เป็นต้น