ดัชนีตลาดหุ้นไทยเปิดเช้านี้ร่วงแรงตามคาด โดยปรับตัวลดลงไปแล้วกว่า 20 จุดล่าสุดเมื่อเวลา 10.14 น.ดัชนี SET ปรับลงมาอยู่ที่ 752.83 จุด ลดลง 21.09 จุด(-2.73%)มูลค่าซื้อขาย 2,943.33 ล้านบาท ท่ามกลางความวิตกกังวลปัญหาซับไพร์มที่ส่งผลกระทบกับตลาดหุ้นทั่วโลกในขณะนี้
จากเมื่อ 10.01 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 753.95 จุด ลดลง 19.97 จุด หรือ -2.58% แต่มูลค่าการซื้อขายยังเบาบางมาก
นายจักรกริช เจริญเมธาชัย ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟินันซ่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงตั้งแต่เปิดทำการ ตามทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งถือว่าไทยยังปรับตัวลงน้อยกว่าตลาดหุ้นอื่นในเอเชียที่เฉลี่ยปรับตัวลงถึง 5% ทั้งนี้ เป็นผลจากบริษัทคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทปล่อยกู้จำนองอันดับ 1 ของสหรัฐ มีปัญหาในเรื่องการปล่อยสินเชื่อ ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลงเมื่อคืนที่ผ่านมา(15 ส.ค.)
นอกจากนี้ ยังมาจากปัจจัยที่ค่าเงินเยนเริ่มจะกลับมาแข็งค่าใหม่อีกครั้ง โดยทดสอบระดับ 116 เยน/ดอลลาร์ ดังนั้น ตลาดหุ้นทั่วโลกเวลานี้จึงปรับตัวลงกันทั่วหน้า
อย่างไรก็ดี สำหรับตลาดหุ้นไทยเมื่อปรับตัวลงแรงอย่างนี้ก็น่าที่จะเป็นโอกาสในการเข้าไปซื้อ เพราะหากการลงประชาชนส่วนใหญ่ลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ก็จะทำให้บรรยากาศทางการเมืองดีขึ้น ดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าก็มีโอกาสรีบาวน์ขึ้นไปได้ 20-30 จุด พร้อมแนะซื้อหุ้น TOP, ADVANC, KBANK และ PTT ซึ่งคาดว่าจะขึ้นได้แรงกว่าตัวอื่น
ส่วนวันนี้ให้แนวรับที่ 750 จุด หากยืนอยู่ได้ก็ถือว่าดีมาก หากยืนไม่ได้ก็มีโอกาสลงไปที่ 725 จุดอีกรอบ
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--