บมจ.วีนิไทย (VNT) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติวงเงินที่จะใช้ซื้อทรัพย์สิน(ที่ดิน อาคาร โรงงาน และทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับโรงงาน)จากบริษัท เอเพ็ค ปิโตรเคมิคอล จำกัด 3,250 ล้านบาท บริษัทจะจัดหาแหล่งเงินทุนสำหรับการซื้อสินทรัพย์ดังกล่าวโดยการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง
การซื้อทรัพย์สินในครั้งนี้เป็นการลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตและเพิ่มความต่อเนื่องให้กับสายการผลิตแบบครบวงจร โดยกำลังการผลิตส่วนเพิ่มจะสามารถรองรับความต้องการภายในประเทศ และการส่งออกได้ ส่งผลถึงความสามารถในการทำกำไรในระยะยาว
ให้แก่บริษัท
ปัจจุบัน บริษัท เอเพ็ค ปิโตรเคมิคอล จำกัด มีทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท ประกอบธุรกิจหลักคือผลิตและจำหน่าย พีวีซีเรซิน (ชนิดซัสเพนชั่น) ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักที่สำคัญในขบวนการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกส์ชนิดต่างๆ โดยมีกำลังการผลิตพีวีซีเรซิน (ชนิดซัสเพนชั่น) ที่ 120,000 ตันต่อปี
ทรัพย์สินหลักประกอบด้วย ที่ดิน อ.เมือง จ.ระยอง 135 ไร่ ซึ่งเป็นที่ตั้งอาคารโรงงาน เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตพีวีซีเรซิน, อาคาร เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตพีวีซีเรซินทั้งหมด โดยมีกำลังการผลิต 120,000 ตันต่อปี การโอนทรัพย์สินจะนำมาซึ่งการโอนสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้แก่บริษัทด้วย เช่น บัตรส่งเสริมการลงทุน ใบอนุญาตประกอบการผลิต เป็นต้น
วัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ระหว่างการผลิต และ ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป รวมถึงชิ้นส่วนและอุปกรณ์เครื่องจักรที่ต้องใช้ในการผลิต รวมทั้งสินทรัพย์อื่น เช่น ลูกค้า สัญญาซื้อขายวัตถุดิบ สัญญาสาธารณูปโภคต่างๆ รวมทั้งสัญญาทางการค้าอื่นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการผลิตพีวีซีเรซิน
ทั้งนี้ บริษัท เอเพ็คปิโตรเคมิคอล จำกัดตกลงยินยอมให้บริษัทสามารถหักกลบลบหนี้คงค้างทั้งหมด(หนี้คงค้างทั้งหมดของบริษัท เอเพ็คปิโตรเคมิคอล จำกัดที่มีต่อบริษัท ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2550 ประมาณ 495 ล้านบาท) และยอมให้หักหนี้ค่าภาระผูกพันต่างๆ อันเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินที่ซื้อขาย ณ วันส่งมอบทรัพย์สินที่บริษัท เอเพ็คปิโตรเคมิคอล จำกัดคงค้างอยู่กับเจ้าหนี้รายอื่นได้ด้วย
บริษัทฯ ได้แต่งตั้งบริษัท ทรีนิตี้ แอ๊ดไวซอรี่ 2001 จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อให้ความเห็น โดยผลประโยชน์ที่คาดว่าบริษัทจะได้รับคือการเติบโตในอนาคตหลังจากการเข้าซื้อทรัพย์สินจะมีกำลังการผลิตพีวีซีเรซิน (ชนิดซัสเพนชั่น) เพิ่มขึ้นประมาณ 120,000 ตันต่อปี ทำให้ผลรวมของกำลังการผลิตพีวีซีเพิ่มจาก 210,000 ตันต่อปี เป็น 330,000 ตันต่อปี ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากขึ้น มียอดขายเพิ่มสูงขึ้นและมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น
และ เพิ่มความต่อเนื่องให้กับสายการผลิตแบบครบวงจร จากที่บริษัทมีกำลังการผลิตวีซีเอ็มซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตพีวีซีเรซินจำนวน 400,000 ตันต่อปี แบ่งใช้ในกระบวนการผลิตของบริษัทเอง 200,000 ตันต่อปีและจำหน่ายส่วนที่เหลือแก่ผู้ผลิตรายอื่น ทั้งนี้ การเข้าซื้อสินทรัพย์ของบริษัท เอเพ็ค ปิโตรเคมีคอล จำกัด จะส่งผลให้บริษัทเพิ่มปริมาณการใช้วีซีเอ็มเพื่อเป็นวัถตุดิบภายในกระบวนการผลิตของบริษัทเองแทนการขายให้กับผู้ผลิตรายอื่น จึงเป็นการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์
--อินโฟเควสท์ โดย ศศิธร ซิมาภรณ์ โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--