นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป (ZEN) เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดสตรีทฟู้ดในปี 2564 คาดว่ามีอัตราการเติบโต 5-6% หรือมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 340,000 ล้านบาท เนื่องจากเป็นอาหารที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนไทย ราคาจับต้องได้สอดคล้องกับกำลังซื้อและสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว ประกอบกับพฤติกรรมการสั่งอาหารผ่านช่องทางดิลิเวอรี่ ช่วยผลักดันตลาดเติบโต ทำให้ล่าสุดบริษัท เปิดตัวแฟรนไชส์"เขียง" โมเดลใหม่ในรูปแบบ "รถเข็น" ที่ใช้เงินลงทุนไม่มาก
สำหรับ เขียงรูปแบบรถเข็น เป็นโลว์คอสต์โมเดล มีพื้นที่เริ่มต้น 30-40 ตารางเมตร หรืออาคารพาณิชย์เพียง 1 ยูนิต ก็สามารถขายอาหารได้ จึงสามารถเข้าถึงทำเลที่มีศักยภาพและกระจายสาขาได้แทบทุกพื้นที่ โดยคิดค่าลงทุนและค่าแฟรนไชส์ต่ำกว่าโมเดลทั่วไป เพื่อให้สอดคล้องกับผู้ที่สนใจลงทุนประกอบการธุรกิจร้านอาหารขนาดเล็ก โดยใช้งบลงทุนไม่สูง หากอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพมีโอกาสคืนทุนภายใน 1-2 ปี ทำให้บริษัทมีโอกาสขยายแฟรนไชส์ได้อีกมาก
"ล่าสุดได้เปิดบริการเขียงรถเข็น สาขาแรกย่านท่าพระ เพื่อเป็นสาขาต้นแบบที่สร้างการรับรู้แก่ผู้ที่สนใจลงทุนเปิดร้านอาหารสตรีทฟู้ดขยายฐานลูกค้า และปัจจุบันมีผู้ประกอบการในภาคใต้ซื้อแฟรนไชส์และพร้อมเปิดบริการในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเดือนธันวาคมนี้ รวมถึงอยู่ระหว่างการเจรจาอีกหลายจังหวัด โดยบริษัทต้องการต่อยอดเขียงเพื่อเป็นโมเดลสร้างอาชีพแก่คนในท้องถิ่น"นายบุญยง กล่าว
นายบุญยง กล่าวว่า สำหรับแผนขยายสาขาเขียงในปี 2564 วางเป้าหมายเปิดบริการอีก 100 สาขา โดยบริษัทจะรุกขยาย 2 รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบสแตนดาร์ด จำนวน 40 สาขา และรูปแบบโลว์คอสต์ จำนวน 60 สาขา ประกอบด้วย สาขาในคอมมูนิตี้มอลล์, ฟู้ดคอร์ท, สถานีบริการน้ำมัน, เทสโก้โลตัส, สถานีรถไฟฟ้า MRT, อาคารพาณิชย์, แบบสแตนอโลน, ภายในห้างสรรพสินค้า และโมเดลล่าสุดรูปแบบรถเข็น ส่งผลให้เขียงเป็นแบรนด์ สตรีทฟู้ดที่มีโมเดลแฟรนไชน์ครอบคลุมถึง 9 โมเดล และมีสาขาให้บริการมากที่สุดในเชนสตรีทฟู้ดของประเทศไทย