ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดพุ่งสูงขึ้นในวันนี้ (8 ก.ค.) จากหุ้นธนาคารที่ปรับตัวสูงขึ้นเพราะนักลงทุนคลายความกังวลจากกรณีที่ปัญหาตลาดซับไพรม์สหรัฐอาจจะลุกลามมายังเอเชีย
ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากธนาคารกลางสหรัฐตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องต่อไปแม้ว่าจะยังคงมีปัญหาตลาดซับไพร์ม ซึ่งปัจจัยเหล่านี้หนุนให้เกิดการซื้อทำกำไรในตลาดหุ้นสิงคโปร์
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า สเตรทส์ไทม์บวกขึ้น 111.16 จุด หรือ 3.40% ปิดที่ 3,413.17 จุด โดยตลาดจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีนี้เนื่องในวันหยุดประจำชาติ
ปริมาณการซื้อขาย 2.40 พันล้านหุ้น มูลค่า 2.53 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
ซุง ตัค ยิน หัวหน้าฝ่ายวิจัยของแมคควอรี อิควิตี้ส์ รีเสิร์ช กล่าวว่า ความกังวลที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการทำธุรกิจ CDO ของธนาคารและปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากตลาดปล่อยกู้เพื่อการจำนองแก่ลูกค้าที่มีความน่าเชื่อถือต่ำของสหรัฐได้คลี่คลายลง เรายังไม่เห็นว่ามีแรงเทขายที่ย่ำแย่ แต่คาดว่าความผันผวนจะยังเกิดขึ้น และแนะนำลูกค้าให้ถือหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและจ่ายผลตอบแทนดีเอาไว้ ซึ่งหุ้นเหล่านี้ได้แก่ หุ้นอุตสาหกรรมอย่างเคปเพล คอร์ป และหุ้นเอสที เอ็นจิเนียริ่ง หุ้นสิงคโปร์ เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ และหุ้นสิงคโปร์ เพรส โฮลดิ้งส์
หุ้นเคปเพลคอร์ป ปิดบวก 60 เซนต์ หุ้นเอสพีเอช ปรับตัวสูงขึ้น 4 เซนต์ และหุ้นสิงเทลปรับตัวสูงขึ้น 14 เซนต์
ส่วนหุ้นเอสที เอ็นจิเนียริ่ง ขยับขึ้น 6 เซนต์ หลังจากที่บริษัทได้เปิดเผยกำไรสุทธิไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 12%
ทั้งนี้ หุ้นแบงค์ดีดตัวขึ้นหลังจากที่ธุรกิจ CDO ของธนาคารจะส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้นต่อรายได้ของธนาคาร โดยหุ้นดีบีเอสกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ บวก 1.10 ดลอลาร์ หุ้นยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส์ แบงค์ บวก 1.20 ดอลลาร์ และหุ้นโอเวอร์ซี-ไชนีส แบงกิ้ง คอร์ป ปรับตัวสูงขึ้น 30 เซนต์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--