CCET ปันผลระหว่ากาล 0.20 บ./หุ้น พร้อมขยายธุรกิจในอินเดีย-ไต้หวัน

          นายโจว ข่ง ซิ่ง กรรมการผู้จัดการ บมจ.แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ CCET เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะหกรรมการบริษัท อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก สิ้นสุด 30 มิ ถุ น ยน 2550 ให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทฯในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท เป็นจำนวนทั้งหมด,918,135,938 หุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 783,627,187.60 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นซึ่งมีรายชื่อปรากฏอยู่ในการปิดสมุดทะเบียน ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2550 เวลา 12.00 น.โดยมีกำหนดการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรสุทธิที่ ได้รับการยกเว้นภาษี เงินได้ นิติบุคคล ณ วันที่ 11 กันยายน  2550
          นอกจากนี้ ที่ประชุมอนุมัติการเพิ่มทุนของบริษัท Cal-Comp Optical Electronics (Suzhou) Co., Ltd. (CCOS) ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 100  โดยเพิ่มทุน 16.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ CCOS มีทุนจดทะเบียนใหม่ 41.3 ล้านเหรียญสหรัฐ จาก 25 ล้านเหรียญสหรัฐ  โดยบริษัทนำ กำไรสะสมของ CCOS และนำกลับมาลงทุนเป็นการเพิ่มทุน ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทเนื่องจากการเติบโตของธุรกิจ คาดดำเนินการเสร็จภายในปี 50 
          และ ที่ประชุมอนุมัติการขยายโรงงานของ CCOS โดยก่อสร้างโรงงานใหม่ ใช้เงินลงทุนโรงงานใหม่และอุปกรณ์  226,120,000 หยวน หรือประมาณ 29,896,212 เหรียญสหรัฐ  เพื่อขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 2 ปี 2551
          ที่ประชุมอนุมัติ การลงทุนร่วมระหว่าง CCET และบุคคลที่ไม่ได้มีความเกี่ยวโยงกันกับบริษัทฯ เพื่อจั ดตั้งโรงงานใหม่ในประเทศ อินเดีย โดยบริษัทฯจะลงทุนประมาณ 5,000,000 เหรียญสหรัฐ หรือถือหุ้นประมาณร้อยละ 40  จุดประสงค์สำหรับการเพิ่มทุนครั้งนี้เพื่อขยายกำลังการผลิตสำหรับสินค้าในกลุ่มโทรคมนาคม  และกลุ่มอุปกรณ์ประกอบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้คาดว่าการลงทุนจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 2 ปี 2551
          และยังอนุมัติการลงทุนของบริษัท Logistar International Holding Co., Ltd.ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ในบริษัทไต้หวันชื่อ บริษัท A-Ten Technology Co., Ltd. เป็นจำนวนเงิน 500,000 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 17,000,000 บาท ทั้งนี้บริษั ท ดังกล่าวถือเป็นบริษัท ย่อยของบริษัท Logistar International Holding Co., Ltd. ซึ่งจะถือหุ้นร้อยละ 55 หลังจากการลงทุนแล้วเสร็จ และคาดว่าการลงทุนจะเสร็จสิ้นภายในปี 2550 และการลงทุนในครั้งนี้จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งและศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนาให้กับสินค้าโทรคมนาคมอีกทั้งเพื่อเพิ่มช่องทางทางการตลาดในประเทศจีนและตลาดต่างๆของโลก