นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าสินเชื่อปี 64 เติบโต 20-25% จากปีนี้ที่คาดว่าสินเชื่ออาจจะเติบโตได้ 18% โดยที่บริษัทมองว่าความต้องการใช้สินเชี่อยังคงมีมากอยู่ จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งเป็นปัจจัยบวกให้กับธุรกิจ แต่การปล่อยสินเชื่อของบริษัทก็ยังมีความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุมคุณภาพของสินเชื่อให้อยู่ในระดับที่ดี และป้องกันความเสี่ยงการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่อาจจะยังมีแนวโน้มเพิ้มขึ้น
แนวโน้มของ NPL ในปีหน้าบริษัทคาดว่าจะยังมีการปรับตัวขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าบางรายลดลง ทำให้ NPL อาจจะยังมีโอกาสเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งบริษัทจะพยายามควบคุมNPL ในปี 64 ให้ไม่เกิน 1.5% จากสิ้นปีนี้ที่คาดว่าอยู่ที่ 1.1%
ส่วนแหล่งเงินทุนของบริษัทที่จะนำมารองรับการปล่อยสินเชื่อในปี 64 ส่วนใหญ่ยังคงมาจากวงเงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ที่บริษัทได้รับ ซึ่งยังมีวงเงินสินเชื่อเบิกใช้ได้อยู่ราว 1 หมื่นล้านบาท ส่วนการออกหุ้นกู้บริษัทยังขอพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งในช่วงเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาบริษัทได้ออกหุ้นกู้ไปแล้ว 5 พันล้านบาท ซึ่งสามารถรองรับการปล่อยสินเชื่อได้ค่อนข้างเพียงพอ โดยหากบริษัทมีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนรองรับการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นยังสามารถใช้เงินกู้ยืมธนาคารที่มีวงเงินอยู่ได้
ส่วนภาพรวมของผลงานในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 63 ในช่วงเดือนธ.ค.นี้ ถือว่าความต้องการใช้สินเชื่อชะลอตัวลงไปมากจากเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา คาดว่าจะมาจากการชะลอการจับจ่ายใช้สอยจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอ ทำให้การปล่อยสินเชื่อในเดือน ธ.ค.นี้ชะลอตัวลงไป ซึ่งบริษัทยังคงลุ้นว่าการปล่อยสินเชื่อในปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายโต 20% หรือไม่ หลังจาก 9 เดือนที่ผ่านมาเติบโต 18% โดยมีพอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่เกือบ 7 หมื่นล้านบาท "ปีนี้ก็ยังลุ้นว่าสินเชื่อจะโตตามเป้า 20% ได้ไหม เพราะเดือนธ.ค.นี้เราก็ดูสถานการณ์สินเชื่อชะลอตัว ก็พยายามให้ทีมทำให้เต็มที่มากที่สุด แต่ถ้าไม่ได้จริงๆก็โตต่ำเป้าเล็กน้อยใกล้เคียง 9 เดือนที่โต 18% ก็ยอมรับว่าแรงกดดันมาจากช่วงล็อกดาวน์ไนไตรมาส 2/63 ที่เราปล่อยสินเชื่อไปได้เพียง 600 ล้านบาท จากปกติจะปล่อยได้ไตรมาสละ 3 พันล้านบาท"นายปริทัศน์ กล่าว