(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:แรงซื้อหุ้นการเงิน หนุนดาวโจนส์ปิดพุ่ง 286.87 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 7, 2007 06:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 280 จุดเมื่อคืนนี้ (6 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มการเงินที่ร่วงลงเพราะได้รับผลกระทบจากความกังวลเรื่องตลาดปล่อยกู้จำนองซับไพรม์ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังมีท่าทีวิตกกังวลก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นในคืนวันอังคารที่ 7 ส.ค.(ตามเวลาประเทศไทย)
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 286.87 จุด หรือ 2.18% ปิดที่ 13,468.78 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 บวกขึ้น 34.61 จุด หรือ 2.42% ปิดที่ 1,467.67 จุด และ ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 36.08 จุด หรือ 1.44% ปิดที่ 2,547.33 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 2.29 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 6 ต่อ 5 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.84 พันล้านหุ้น
นายชาร์ล เนลสัน นักวิเคราะห์จากจีเอ็นไอ แคปิตอลกล่าวว่า นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มการเงินที่ร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้ อาทิ หุ้นแบร์ สเติร์นส หุ้นซิตี้กรุ๊ป และเมอร์ริล ลินช์ และแม้จะมีกระแสความวิตกกังวลก่อนการประชุมเฟด แต่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าสภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐในยามนี้ยังไม่ทำให้เฟดตัดสินใจเปลี่ยนแปลงนโยบายอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นไว้เท่าเดิมที่ 5.25% ในการประชุมคืนนี้ และจับตาดูว่าเฟดจะมีมุมมองอย่างไรต่อปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดปล่อยกู้จำนองซับไพรม์ของสหรัฐ
นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กร่วงลง 3.42 ดอลลาร์ แตะระดับ 72.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ได้ช่วยกระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายให้คึกคักขึ้นด้วย
หุ้นกลุ่มการเงินทะยานขึ้นแข็งแกร่ง โดยหุ้นแบร์ สเติร์นส ดีดขึ้น 5% หลังจากหุ้นดังกล่าวร่วงลงเมื่อวันก่อนและยังฉุดหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มการเงินดิ่งลงด้วย ภายหลังจากที่นายแซม โมลินาโร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของแบร์ สเติร์นส์ได้แสดงความคิดเห็นว่า วิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อของสหรัฐอาจจะเลวร้ายกว่าเหตุการณ์ที่ตลาดหุ้นทรุดตัวลงเมื่อปี 2530
ขณะที่หุ้นเมอร์ริล ลินช์ พุ่งขึ้น 6.4% หลังจากนักวิเคราะห์ของยูบีเอสประกาศเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวและแสดงความเชื่อมั่นว่าเมอร์ริล ลินช์น่าจะฟันฝ่าปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดซับไพรม์ไปได้ ส่วนหุ้นซิตี้กรุ๊ปทะยานขึ้น 5.8% และหุ้นซันทรัสต์ แบงค์ ดีดขึ้น 6%
นอกจากนี้ หุ้นบริษัทคูเปอร์ ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ ปิดเพิ่มขึ้น 5.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 พุ่งขึ้น 17% เนื่องจากกิจการของบริษัทในอเมริกาเหนือ ยุโร และเอเชีย แข็งแกร่งขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ