นางสาวนีรชา ปานบุญห้อม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ซีออยล์ (SEAOIL) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 64 จะเติบโต 10-30% จากปีนี้ที่คาดว่าหดตัวจากปีก่อน หลังมุ่งเน้นไปในธุรกิจการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่น ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะขยายไปยังตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา, ลาว, เมียนมา รวมถึงตลาดอื่น ๆ ในประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง โดยวางงบลงทุนสำหรับธุรกิจดังกล่าวไว้เป็นหลักพันล้านบาท ประกอบกับยังคงมุ่งเน้นไปในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (Exploration & Production) ที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญด้วย
"เป้าหมายเติบโตจะเป็นการวางไว้ในกรอบที่ค่อนข้างกว้าง จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนในปีนี้ ซึ่งได้ส่งผลกระทบกับบริษัท และธุรกิจอื่น ๆ แต่ว่าแน่นอนเราจะ maintain ไว้ไม่ให้ต่ำกว่า 10% และพยายามทำให้ถึง 30% โดยการวางแผนการดำเนินงานจากเดิมจะวางแผนเป็นรายปี เราก็จะปรับมาเป็นการวางแผนในทุก ๆ ไตรมาส เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของน้ำมัน โควิด-19 ที่ค่อนข้างจะมีผลกระทบกับบริษัทพอสมควร"นางสาวนีรชา กล่าว
นางสาวนีรชา กล่าวว่า สำหรับในปี 63 รายได้ของบริษัทจะปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 6.63 พันล้านบาท หลังในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ มีรายได้อยู่ที่ 4.14 พันล้านบาท หรือปรับตัวลดลงราว 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ซึ่งสัดส่วนรายได้หลักของบริษัทมาจากการจำหน่ายน้ำมันถึง 97% ขณะเดียวกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันในช่วงที่ผ่านมาด้วย
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/63 คาดว่าจะทำได้ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า ตามปริมาณการขายที่ยังคงทำได้ดี และการขยายตลาดไปในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศอาเซียน ซึ่งยังมีความต้องการใช้อย่างมาก อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการส่งออกไปในประเทศอาเซียน อยู่ราว 88% ได้แก่ กัมพูชา, สิงคโปร์, มาเลเซีย, เวียดนาม, ลาว ,เมียนมา, อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เป็นต้น