นายบัญชัย ครุจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สหไทย เทอร์มินอล (PORT) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 64 จะสามารถกลับมาเติบโตได้ 10-20% จากปีนี้ ตามการกลับมาฟื้นตัวค่อนข้างดีของการนำเข้าและส่งออกสินค้าโดยรวม ขณะที่บริษัทเน้นกลยุทธ์การให้บริการที่ใกล้ชิดและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า รวมไปถึงการบริการจัดการต้นทุนได้อย่างเหมาะสมด้วย
พร้อมกันนี้บริษัทยังได้เตรียมเปิดดำเนินการ 2 โครงการใหม่ในช่วงปลายปี 64 คือ โครงการท่าเรือแห่งใหม่ ซึ่งเป็นแห่งที่ 3 ภายใต้ บริษัท บางกอก ริเวอร์ เทอมินอล จำกัด ที่ PORT ร่วมลงทุนกับบริษัท APM Terminals จำกัด และกลุ่มน้ำตาลมิตรผล โดยหากโครงการท่าเรือแห่งที่ 3 สามารถเปิดให้บริการได้แล้ว ประเมินว่าจะสามารถสร้างรายได้มากกว่า 500 ล้านบาท/ปี หรือสูงสุด 750-1,000 บาท/ปี โดยจะทำให้ PORT มีรายได้เข้ามาปีละ 150-160 ล้านบาทตามสัดส่วนการถือหุ้น
รวมไปถึงโครงการโลจิสติกส์พาร์คและศูนย์กระจายสินค้า บนพื้นที่กว่า 50 ไร่ ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับ บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (FPT) ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ช่วงปลายปี 64
นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาการเข้าลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจโลจิสติกส์เพิ่มเติมอีก 2-3 โครงการ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปี 64 ซึ่งหากสามารถเข้าลงทุนในโครงการต่าง ๆ ได้ก็จะหนุนให้รายได้เติบโตมากกว่าเป้าหมายเบื้องต้นที่วางไว้
"เราอยู่ระหว่างการทำแผนการดำเนินงานของปี 64 โดยเบื้องต้นแล้วเราคาดว่าจะสามารถเติบโตได้ 10-20% ตามการฟื้นตัวของการนำเข้าและส่งออก แต่อย่างไรก็ตามหากการศึกษาการเข้าลงทุนโครงการได้ข้อสรุปเพื่อเข้าลงทุนก็จะเข้ามาหนุนการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นไปอีก"นายบัญชัย กล่าว
นายบัญชัย กล่าวว่า สำหรับทิศทางผลประกอบการไตรมาส 4/63 มองว่าจะดีปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากช่วงไตรมาส 3/63 หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น และส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมา รวมถึงการนำเข้าและส่งออกที่กลับมาฟื้นตัวถึง 80-90% เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19