ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 140 จุดเมื่อคืนนี้ (31 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับตลาดสินเชื่อและตลาดปล่อยกู้จำนองในสหรัฐ ซึ่งความกังวลดังกล่าวทำให้นักลงทุนแห่เข้าไปซื้อขายในตลาดพันธบัตร
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 146.32 จุด หรือ 1.10% ปิดที่ 13,211.99 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 รูดลง 18.64 จุด หรือ 1.26% ปิดที่ 1,455.27 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 37.01 จุด หรือ 1.43% ปิดที่ 2,546.27 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 4.18 พันล้านหุ้น เพิ่มขึ้นจากวันจันทร์ที่ 4.04 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 9 ต่อ 7
นายเดนิส อมาโต้ นักวิเคราะห์จากบริษัทแอนโกรา แอ็ดไวเซอร์สกล่าวว่า ในช่วงเช้านั้นดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) และบริษัทซัน ไมโครซิสเต็มส์ และข้อมูลเศรษฐกิจบางด้านของสหรัฐ แต่ต่อมาไม่นานตลาดเริ่มถอยร่นลงสู่แดนลงหลังจากบริษัทโฮม มอร์เกจ อินเวสท์เมนท์เปิดเผยว่า บริษัทไม่สามารถจัดการกับวงเงินสินเชื่อค้างชำระและได้จ้างที่คณะที่ปรึกษาเพื่อรับมือกับปัญหานี้ ซึ่งรวมถึงการขายสินทรัพย์ของบริษัท
"นักลงทุนส่วนใหญ่กังวลว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่อและตลาดปล่อยกู้จำนองในสหรัฐ กำลังลุกลามจนส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมซบเซาลง และอาจส่งผลกระทบถึงธุรกิจด้านอื่นๆที่เกี่ยวข้อง อาทิ ธุรกิจรับสร้างบ้าน" นายอมาโต้กล่าว
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่พ่งขึ้น 1.78 ดอลลาร์ แตะระดับ 78.21 ดอลลาร์ โดยนายอมาโต้กล่าวว่า "ราคาน้ำมันที่พ่งขึ้นเหนือระดับ 78 ดอลลาร์ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยลบที่เข้ามาซ้ำเติมตลาด"
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้านั้นตลาดได้รับแรงหนุนจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขการใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ค่อนข้างพอใจ และรายงานของสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี
ทั้งนี้ หุ้นอเมริกัน โฮม ร่วงลงอย่างรุนแรงถึง 90% หลังจากบริษัทเปิดเผยปัญหาที่เกิดขึ้นกับวงเงินสินเชื่อ ขณะที่หุ้นจีเอ็มรูดลง 21 เซนต์ ปิดที่ 32.40 ดอลลาร์ หลังจากหุ้นดังกล่าวพุ่งขึ้นในช่วงเช้าเนื่องจากบริษัทจีเอ็มเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่แข็งแกร่งเกินคาด และหุ้นซัน ไมโครซิสเต็ม พุ่งขึ้น 4.3%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--