นายเสนธิป ศรีไพพรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ธนาคารทหารไทย (TMB) เปิดเผยว่า ธนาคารได้เปิดตัว Business ONE ธนาคารดิจิทัลเพื่อกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ที่เป็นผู้ช่วยทางการเงินและการบริหารธุรกิจ เสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่และเอสเอ็มอี โดยมีบริการในการทำทุกธุรกรรมได้ครบจบในระบบเดียว โดยไม่มีการคิดค่าธรรมเนียม ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินหรือโอนเงินให้คู่ค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเบิกวงเงินสินเชื่อเพื่อธุรกิจ ลดปัญหาไม่ต้องจำรหัสเข้าใช้งานหลายระบบ และยังสามารถใช้งานได้จากทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเข้าผ่านคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ที่ได้รับประสบการณ์การใช้งานแบบเดียวกัน
Business One ถือเป็นเครื่องมือที่เข้ามาแก้ไขปัญหาการทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง สำหรับลูกค้าธุรกิจของธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นการเข้าหลายระบบเมื่อต้องการทำธุรกรรมหลายประเภท ได้แก่ การจ่ายเงินหรือโอนเงินทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเบิกวงเงินสินเชื่อ ล้วนต้องเข้าระบบที่แตกต่างกัน การเข้าใช้งานแต่ละบริการมีหลายขั้นตอน แบบฟอร์มในระบบดิจิทัลใช้ยาก ใช้เวลานานในการอัปโหลดไฟล์ หรือแม้ว่าจะทำธุรกรรมบนดิจิทัลแล้ว แต่ยังต้องรับ-ส่งเอกสารที่ยังเป็นกระดาษกับคู่ค้าและหน่วยงานภาครัฐ ทำให้ธนาคารพัฒนาแพลตฟอร์มดังกล่าวขึ้นมาแก้ปัญหาเหล่านี้ เพื่อตอบสนองการใช้ระบบการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางออนไลน์ที่เร่งตัวขึ้น
สำหรับลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และลูกค้าเอสเอ็มอีของ TMB และธนาคารธนชาต ในปัจจุบันมีอยู่หลักแสนราย ส่วนใหญ่มีการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางดิจิทัลกว่า 60% และมีการทำธุรกรรมผ่านทางสาขาของธนาคารราว 40% เนื่องจากบางธุรกรรม อย่างเช่น การออกเช็ค และการขึ้นเช็ค ยังต้องทำธุรกรรมผ่านทางสาขา ทำให้ลูกค้าธุรกิจยังคงมีการใช้บริการผ่านสาขาอยู่บ้าง
แต่ธนาคารจะพัฒนาระบบของ Business One อย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้การทำธุรกรรมต่าง ๆ มาอยู่บนช่องทางดิจิทัล ซึ่งตั้งเป้าภายในปี 64 จะเห็นการทำธุรกรรมของลูกค้าธุรกิจและเอสเอ็มอีมาใช้บริการผ่านช่องทางดิจิทัล 100% ซึ่งตั้งเป้ามีลูกค้าใช้บริการ Business One ในสิ้นปี 64 ที่ 100,000 ราย จากปัจจุบันที่ 50,000 ราย แบ่งเป็นลูกค้าของ TMB จำนวน 30,000 ราย และลูกค้าของธนชาต 20,000 ราย
นายเสนธิป กล่าวว่า กลุ่มลูกค้าธุรกิจของธนาคารในช่วงที่ผ่านมาถือว่าเริ่มกลับมาฟื้นตัวขึ้น,kบ้าง จากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศได้คลี่คลายลงบ้าง การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจค่อย ๆ กลับมา แม้ว่าจะยังไม่ฟื้นอย่างชัดเจนก็ตาม ทำให้ลูกค้ากลุ่มธุรกิจบางอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าธุรกิจโรงแรมที่ภาคการท่องเที่ยวยังไม่กลับมา แต่ธนาคารก็ได้พยายามหาแนวทางในการช่วยเหลือและให้คำปรึกษาลูกค้าเพื่อทำให้ลูกค้ามีแนวทางในการดำเนินธุรกิจต่อได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากสิ้นสุดมาตรการพักชำระหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไปแล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะกลับมาชำระคืนหนี้กับธนาคารได้ในสัดส่วนที่มากกว่า 50% ส่วนลูกค้าที่ไม่สามารถกลับมาชำระคืนหนี้ได้มีสัดส่วนน้อย และธนาคารก็ได้มีการวางแผนความเสี่ยงไว้แล้วก่อนหน้า ขณะที่ธนาคารยังคงช่วยเหลือ และช่วยลูกค้าในการหาแนวทางที่จะนำพาธุรกิจให้ไปต่อได้อย่างต่อเนื่อง เพราะในวิกฤติที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ได้คาดคิดไว้ล่วงหน้า ส่งผลให้ธนาคารและลูกค้าต่างต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้