SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,477.21 จุด เพิ่มขึ้น 1.08 จุด (+0.07%) มูลค่าการซื้อขาย 91,745 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผย ตลาดหุ้นไทยปิดปรับตัวขึ้น แม้ระหว่างวันเผชิญแรงขายทำกำไรต่อเนื่องจากวานนี้ แต่ยังมีแรงซื้อกลับหุ้นกลุ่มหลัก จากความคาดหวังเศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นหากมีวัคซีนต้านไวรัสโควิด อย่างไรก็ตามดัชนีขึ้นมาแรงและเร็วในช่วงที่ผ่านมา จึงมีแรงขายทำกำไรปรับพอร์ตสลับออกมาบ้าง แต่ภาพรวมทิศทางยังดีและมีโอกาสทะลุ 1,500 จุด ส่วนพรุ่งนี้มองดัชนีแกว่งตัวกรอบ และนักลงทุนยังเลือกลงทุนรายตัว ให้แนวรับ 1,455 จุด และแนวต้าน 1,500 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,477.21 จุด เพิ่มขึ้น 1.08 จุด (+0.07%) มูลค่าการซื้อขาย 91,745 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,478.61 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,459.97 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 640 หลักทรัพย์ ลดลง 926 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 453 หลักทรัพย์
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงขายทำกำไรค่อนข้างมากในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา หลังจากดัชนีปรับตัวขึ้นเร็วและแรงในช่วงก่อนหน้าแต่ยังผ่าน 1,500 จุดไปไม่ได้ ทำให้เริ่มเห็นสัญญาณชะลอตัว และนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิติดต่อกัน 2 วัน ทำให้ภาพระยะกลางเป็นการพักฐาน แต่ดัชนีก็ยังไม่หลุดระดับ 1,455 จุด ทำให้ยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาเช่นกัน
ทั้งนี้ มองว่าตลาดหุ้นไทยยังเป็นตัวเลือกการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงที่ดี เมื่อมีวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ออกมา เนื่องจากเศรษฐกิจไทยพึ่งพิงภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวเป็นหลัก ซึ่งในช่วงที่ยังไม่มีวัคซีน ตลาดหุ้นไทยนับว่า Underperform ตลาดหุ้นอื่นค่อนข้างมาก เพราะสถานการณ์โควิด-19 กระทบโดยตรงต่อภาคการส่งออกและท่องเที่ยว เมื่อมีวัคซีนตลาดหุ้นไทยจะกลับมา Outperform ตลาดหุ้นอื่นได้ดี
แต่การที่ดัชนีดีดตัวขึ้นมาเร็วและแรงก็ย่อมมีแรงขายทำกำไรปรับพอร์ตสลับออกมาบ้างในหุ้นกลุ่มที่ราคาขึ้นมามากแล้วอย่างแบงก์ พลังงาน และปิโตรเคมี ทำให้หุ้นกลุ่มเหล่านี้พักตัวในช่วง 2 วัน ก่อนจะเริ่มเห็นแรงซื้อกลับขึ้นมาในวันนี้
อย่างไรก็ตาม มองว่าตลาดหุ้นไทยยังมีทิศทางที่ดี และมีโอกาสทะลุผ่าน 1,500 จุดขึ้นไปได้ แต่การที่ดัชนีดีดตัวขึ้นมาแรงและเร็ว ทำให้อาจยังต้องเผชิญแรงขายสลับออกมาบ้างในบางกลุ่ม เพื่อโยกเงินไปลงทุนในกลุ่มอื่นทำให้ยังคงเห็นภาพการพักตัวเป็นระยะ ๆ
ส่วนแนวโน้มการซื้อขายวันพรุ่งนี้ (16 ธ.ค.) คาดว่าดัชนีจะยังเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับที่ 1,455 จุด และแนวต้าน 1,500 จุด โดยนักลงทุนน่าจะยังหาจังหวะขายทำกำไรและโยกเงินไปลงทุนในหุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้ช้า แต่มีแนวโน้มกำไรที่ดี ทำให้ภาพการลงทุนยังเป็นลักษณะของการ Selective Buy
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,731.35 ล้านบาท ปิดที่ 117.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 4,091.56 ล้านบาท ปิดที่ 64.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
BAM มูลค่าการซื้อขาย 3,228.38 ล้านบาท ปิดที่ 22.90 บาท ลดลง 0.10 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,796.09 ล้านบาท ปิดที่ 187.50 บาท ลดลง 3.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,724.08 ล้านบาท ปิดที่ 42.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท