นายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (GPI) เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจไตรมาส 4/63 ใกล้เคียงกับไตรมาส 4/62 หลังผ่านจุดต่ำสุดแล้ว เพราะงานอีเว้นท์ก็เริ่มจัดได้แล้ว และงานพิมพ์เพิ่มเข้ามาปลายปี แต่คาดว่าภาพรวมทั้งปี 63 คาดว่าผลประกอบการจะต่ำกว่าปีก่อน เพราะการจัดอีเว้นท์ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19
ส่วนแผนงานในปี 64 จะมีธุรกิจใหม่ (New S-curve) เข้ามาได้แก่ โรงไฟฟ้า, ซื้อขายรถสะสมและspoort cars, รถโมดิฟาย ส่วนอุปกรณ์เกี่ยวกับรถยนต์มีการพูดคุยกับพันธมิตรอยู่ ซึ่งคณะกรรมการบริษัทก็พยายามหาธุรกิจใหม่ๆเสริมเข้ามา โดยพัฒนาธุรกิจจากการใช้ความสามารถหรือความชำนาญเดิมของบริษัท
นอกจากธุรกิจเดิมที่ยังเดินหน้าต่อเนื่อง ได้แก่ การจัดอีเว้นท์มอเตอร์โชว์, E-sport ที่ยังมีโอกาสเติบโตสูง, Media Platform, กลุ่มสิ่งพิมพ์ซึ่งปีหน้าน่าจะปรับตัวได้ดีขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทพยายามปรับโครงสร้างองค์กรให้มีการคล่องตัวและควบคุมต้นทุนให้ดียิ่งขึ้น
นายพีระพงศ์ คาดว่าโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงขยะแปรรูป จ.นครสวรรค์ ขนาดกำลังการผลิต 9 เมกะวัตต์ จะจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในไตรมาสที่ 2/64 ทั้งนี้โครงการนี้ใช้งบลงทุน 650 ล้านบาท ซึ่งมีค่าที่ดินประมาณ 34-35 ล้านบาท ทั้งนี้ขอขยายระยะเวลา 6 เดือนจากกำหนด COD 21 พ.ย.63
ส่วนการจองพื้นที่งานมอเตอร์โชว์ในปี 64 นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ GPI กล่าวว่า ปี 64 มียอดจองพื้นที่ในงานแล้ว 95% รวมทั้งเมอซิเดส เบนซ์ซึ่งปีที่แล้วไม่ได้เข้าร่วม ส่วนอีก 5% เป็นในส่วนผู้ขายอุปกรณ์อะไหล่รถยนต์ เพิ่งเปิดให้จองพื้นที่ คาดว่าจะมีจำนวนผู้จองพื้นที่มากกว่าปีที่แล้ว ซึ่งการจัดงานในปีหน้าหากวัคซีนยังไม่เข้าถึงไทย บริษัทก็ต้องรักษามาตรฐานการจัดงานเหมือนปีนี้ที่ผ่านมา มีการรักษาระยะห่าง จัดคนเข้าบูธเป็นรอบๆ ยังต้องยึดถือมาตรฐานป้องกันโควิด-19
อนึ่ง งวด 9 เดือนปี 63 GPI มีรายได้รวม 483.36 ล้านบาท ลดลง 30% กำไรสุทธิ 38.72 ล้านบาท ลดลง 53% จากสถานกาณณ์โควิด ไม่สามารถจัดงานเลย