นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) เปิดเผยว่า รายได้ในปี 63 หายไปกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากที่งานก่อสร้างล่าช้าออกไปเนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ทำให้คาดว่าในปีนี้จะมีรายได้ไม่ถึง 5 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 6.3 หมื่นล้านบาท
แต่ในปี 64 คาดรายได้จะฟื้นกลับมาที่กว่า 6 หมื่นล้านบาท หลังจากบริษัทสะสมปริมาณงานในมือ (Backlog) ราว 3 แสนล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 4 ปีนี้ โดยได้รับงานขนาดใหญ่ ได้แก่ โครงการรถไฟไทย-จีนเส้นทางกรุงเทพ-นครราชสีมา, โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ขณะที่เป็นงานต่างประเทศราว 5-6 หมื่นล้านบาทในอินเดีย บังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานก่อสร้างรถไฟฟ้าและท่าเรือ
นายเปรมชัย กล่าวว่า หนึ่งในงานโครงการขนาดใหญ่ที่บริษัทได้รับ คือ งานก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) มูลค่างานที่เป็นของบริษัท 1.02 แสนล้านบาท จากมูลค่าโครงการทั้งหมด 1.5 แสนล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี และอีก 2 ปีเป็นงานติดตั้งระบบราง ซึ่ง China Railway Construction Corporation (CRCC) เป็นผู้รับเหมาระบบราง
แต่โครงการดังกล่าวเลื่อนกำหนดเริ่มงานก่อสร้างออกไปจากปลายปีนี้ เปลี่ยนไปเริ่มก่อสร้างในเดือน เม.ย.64 เพราะกลุ่มซีพียังไม่สรุปการออกแบบโครงการ โดยในส่วนที่ตั้งสถานีทั้ง 5 สถานีของโครงการนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนจากเดิมทั้งหมด ซึ่งกลุ่มซีพีอยู่ระหว่างการเลือกจุดที่ตั้งสถานีใหม่
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มูลค่า 1.4 แสนล้านบาท นายเปรมชัย กล่าวว่า บริษัทไม่ได้เข้าประมูล เพราะตามเงื่อนไขการประมูลต้องมีบริษัทหรือกลุ่มร่วมทุนที่เป็นผู้มีประสบการณ์การเดินรถไฟฟ้า ซึ่งในประเทศมี 2 รายเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ได้มีการพูดคุยเบื้องต้นกับ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ซึ่งเสนอให้ ITD รับงานโยธาร่วมกับ บมจ.ช.การช่าง (CK) ดังนั้นบริษัทจะไม่เข้าร่วมกลุ่ม BEM ในการยื่นประมูลโครงการ แต่จะเป็นผู้รับเหมาช่วง (Sub Contractor) แทน
ขณะที่โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ประเทศเมียนมา ขณะนี้ได้หยุดดำเนินการไปก่อนรอการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีเมียนมาก่อน แต่งานก่อสร้างในโครงการได้เดินหน้ามามากพอสมควรแล้ว