แม่-ลูก STEC คึกคัก คาดฟื้นตามตลาดหุ้นไทย-รับผลจาก Q2/50 พลิกเป็นกำไร

          หุ้นแม่-ลูก STEC ราคาพุ่งขึ้น ด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามาอย่างคึกคัก โดยเมื่อเวลา 10.20 น.ราคาหุ้น STEC อยู่ที่ 6.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท(+5.13%) มูลค่าซื้อขาย 83.74 ล้านบาท 
          ส่วนหุ้นลูก STEC-W2 ราคาอยู่ที่ 1.47 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท(+7.30%)มูลค่าซื้อขาย 9.51 ล้านบาท
          นายอภิสิทธิ์ ลิมป์ธำรงกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า ราคาหุ้นแม่-ลูก STEC ปรับตัวสูงขึ้นในเช้านี้ คาดว่าจะเป็นการฟื้นตัวขึ้นตามตลาดหุ้นไทย ประกอบกับ STEC ประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/50 สามารถพลิกฟื้นขึ้นเป็นกำไรได้ 
          STEC และบริษัทย่อย ประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/50 มีกำไรสุทธิ 130.85 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.11 บาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 1.86 พันล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 1.57 บาท
          "ในช่วงก่อนหน้านี้ราคาหุ้น STEC ได้ปรับตัวลงไปมากแล้วจากระดับ 7.5 บาท ลงมาถึง 5.5 บาท การปรับตัวขึ้นในวันนี้ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงการดีดกลับขึ้นไปบ้าง แม้ว่า STEC จะยังมีปัญหาเรื่องโครงการแอร์พอร์ท ลิงค์ ที่ต้องรอผลสรุปอยู่ก็ตาม"นายอภิสิทธิ์ กล่าว 
          สำหรับสัญญาณทางเทคนิคของ STEC ยังแสดงทิศทางการแกว่งตัว โดยมีแนวต้านที่ 6.3 บาท แนวรับ 5.5 บาท
          ด้านฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน แนะ"ถือ"หุ้น STEC เพื่อรอข้อสรุปเรื่องโครงการแอร์พอร์ท ลิงค์ให้ชัดเจนก่อนค่อยเข้าลงทุน โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 6.90 บาท/หุ้น 
          ทั้งนี้ ราคาหุ้น STEC ลดลงมาค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา จากภาวะตลาดโดยรวมที่ย่ำแย่ และประเด็นเรื่องโครงการแอร์พอร์ท ลิงค์ ถือเป็นความเสี่ยงหลักของ STEC ตอนนี้ ซึ่งยังไม่แน่ว่าจะได้ยืดระยะเวลาก่อสร้างออกไปหรือไม่ และหากธนาคารงดปล่อยกู้ให้ ก็จะทำให้โครงการนี้ต้องหยุดชะงัก 
          อย่างไรก็ตาม คาดว่า รฟท.น่าจะสามารถหาแหล่งเงินมารองรับ หรือผลักดันให้มีการยืดระยะเวลาก่อสร้างไปได้ มิฉะนั้นจะเกิดผลเสียอย่างมากหากโครงการนี้ต้องหยุดลง ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่นอนเกี่ยวกับเรื่องนี้