นายชัยยศ ปิยะวรรณรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์ (CPT) คาดว่า รายได้ในปี 64 จะสามารถเติบโตได้เมื่อเทียบกับปี 63 โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ และการวางกลยุทธ์เชิงรุกในการดำเนินธุรกิจโดยเฉพาะการเข้าร่วมประมูลงานโครงการของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ โดยมีมูลค่าโครงการที่จะออกมารวมราว 24,000 ล้านบาท โดยมีทั้งในสาธารณูปโภค โรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงด้านพลังงาน และโรงงานน้ำตาล เป็นต้น
โดยบริษัทมีโครงการที่สำคัญเตรียมเข้าประมูลคือโครงการสถานีไฟฟ้าย่อย (Substation) ใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในแต่ละปีทางการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จะมีการเปิดประมูลโดยรวมประมาณ 30-40 สถานีต่อปี คิดเป็นมูลค่ารวมมากกว่า 6,000-8,000 ล้านบาท บริษัทมีความคาดหวังว่าจะได้รับงานใหม่เข้ามาเพิ่มความแข็งแกรงให้งานในมือมากขึ้น ซึ่งจะเข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัท
พร้อมกันนี้บริษัทยังมองการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมโดยเฉพาะตู้ไฟฟ้าระบบควบคุมเครื่องจักรและตู้ควบคุมการจ่ายไฟฟ้าระดับแรงดันต่ำให้มากขึ้น รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาเพิ่มเติม เพื่อตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้นอีกด้วย ในขณะเดียวกันบันบริษัทอยู่ระหว่างการนำผลิตภัณฑ์ที่มีเข้าสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (TIS) ให้บริการตรวจสอบการทำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) เพื่อขยายฐานลูกค้าไปสู่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ได้ในอนาคตได้มากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังสนใจและอยู่ระหว่างการศึกษาการขยายการลงทุนใหม่ๆ ที่ยังคงเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก เพื่อเข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจหลัก ช่วยต่อยอดธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการ รวมถึงการแข่งขันให้กับบริษัทได้มากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันมีการศึกษาอยู่หลายโปรเจ็กต์แต่การลงทุนอาจต้องพิจารณาตามความเหมาะสมของผลตอบแทนและสถานการณ์ โดยบริษัทยังมีกระแสเงินสดในมือที่ได้จากการดำเนินงานราว 240 ล้านบาทรองรับการลงทุน ซึ่งมองว่ายังเพียงพอ