นายธีรธัชช์ สิงห์ณรงค์ธร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มสนับสนุน บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปี 64 ที่ 2.16 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 50% จากปีนี้ที่คาดว่าทำได้ใกล้เคียงเป้า 1.43 หมื่นล้านบาท โดยการเติบโตรายได้ในปีหน้าจะมาจากการเดินหน้าขายโครงการแนวราบที่จะเป็นกลุ่มสินค้าที่อยู่อาศัยหลัก ซึ่งเป็นการเติบโตของกลุ่มตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบที่คนหันกลับมาเลือกซื้อมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการระดับกลาง-บน
ขณะเดียวกันบริษัทยังคงเดินหน้าขายที่ดินที่มีอยู่ในมืออย่างต่อเนื่อง โดยวางแผนขายออกไปในปี 64 จำนวน 4 แปลง มูลค่ารวมประมาณ 5.7 พันล้านบาท ได้แก่ ที่ดินซอยรัชดาฯ 14 พื้นที่ 3 ไร่ มูลค่า 880 ล้านบาท ที่ดินรามคำแหง-นานาชาติ พื้นที่ 108 ไร่ มูลค่า 1 พันล้านบาท ที่ดินบนถนนรามอินทรา มูลค่า 2 พันล้านบาท และที่ดินถนนรัชดาของบริษัท วีรีเทล จำกัด ในเครือของ PF มูลค่า 2.5 พันล้านบาท ทำให้บริษัทมีรายได้เข้ามาเสริม
ทั้งนี้ ในปี 63 บริษัทได้ขายที่ดินออกไปแล้ว 2 แปลง มูลค่า 308 ล้านบาท ได้แก่ ที่ดินแจ้งวัฒนะ พื้นที่ 14 ไร่ มูลค่า 140 ล้านบาท และที่ดินกรุงเทพกรีฑา 24 ไร่ มูลค่า 168 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทจะมีการทยอยรับรู้รายได้เข้ามาจากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ในส่วนของคอนโดมิเนียมเข้ามาราว 790 ล้านบาท จาก Backlog ที่มีอยู่ทั้งหมด 2.87 พันล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปัจจัยหนุนผลักดันการกลับมาเติบโตในปีหน้า
ส่วนยอดขายรวมในปี 64 บริษัทตั้งเป้าไว้ที่ 1.68 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจาก PF ราว 1.57 หมื่นล้านบาท ยอดขายจาก บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (GRAND) ราว 1.1 พันล้านบาท และยอดขายจากบริษัทร่วมทุนราว 2 พันล้านบาท
บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ 11 โครงการ มูลค่ารวม 1.84 หมื่นล้านบาท เป็นแนวราบทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยว 7 โครงการ บ้านแฝด 2 โครงการ และทาวน์เฮาส์ 2 โครงการ โดยจำนวนรวมดังกล่าวเป็นโครงการที่บริษัทร่วมทุนกับพันธมิตร 2 โครงการ มูลค่า 8.93 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือบริษัทเป็นผู้พัฒนาเอง ส่วน GRAND จะมีแผนเปิดบ้านเดี่ยวหรูรูปแบบวิลล่าในระยอง 1 โครงการ มูลค่าราว 1 พันล้านบาท
ด้านความคืบหน้าการขายหุ้น บมจ.โรงแรมรอยัล ออคิด (ประเทศไทย) (ROH) ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้สนใจ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนของดีลการขายหุ้น ROH ออกมาชัดเจนภายในครึ่งปีแรกของปี 64 โดยที่มูลค่าการขายหุ้น ROH อยู่ที่ราว 5.5 พันล้านบาท