ดัชนีหุ้นไทยภาคเช้าร่วงกว่า 50 จุด แย่กว่าภูมิภาค หลังพบการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ในประเทศจากจุดศูนย์กลางในจังหวัดสมุทรสาคร กดดันให้มีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ออกมา รวมถึงหุ้นที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์ดังกล่าวทั้งกลุ่มอาหารส่งออกและกลุ่มค้าปลีก จากความกังวลอาจจะมีการล็อกดาวน์ในวงกว้าง ซึ่งอาจจะกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ
เมื่อเวลา 9.59 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,428.92 จุด ลดลง 53.46 จุด (-3.61%)
เมื่อเวลา 10.15 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,436.40 จุด ลดลง 45.98 จุด (-3.10%)
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงมาก เนื่องจากกังวลการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศออกเป็นวงกว้างมากขึ้น และอาจจะมีการล็อกดาวน์เพิ่มในหลายจังหวัดหากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นลดน้อยลง และกระทบต่อเศรษฐกิจ หลังจากได้มีการล็อกดาวน์บางพื้นที่ในจ.สมุทรสาคร จากที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก
โดยจะเห็นว่ามีแรงขายหุ้นที่เกี่ยวกับชุมชน ที่เคยคาดหวังจะมีการใช้จ่าย (Spending) ในช่วงปลายปี ซึ่งขณะนี้คงหายไปเพราะไม่มีการจัดงานช่วงปีใหม่ ส่งผลกระทบในหลายกลุ่ม ได้แก่ โรงภาพยนตร์ โรงแรม เป็นต้น
ทั้งนี้ คาดว่าพัฒนาการของตลาดหุ้นขึ้นกับว่าจะมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นมากหรือไม่ โดยการระบาดเพียงที่เดียวอย่างรอบนี้คนค่อนข้างรับข่าวไปบ้าง แต่หากพบการระบาดในหลายจังหวัดก็จะกลับมากังวลหนักว่าจะควบคุมยาก
ความเคลื่อนไหวดัชนีวันนี้เปิดตลาดปรับตัวลงมากแล้ว ในช่วงที่เหลือของวันนี้ตลาดน่าจะซึมๆ อาจดีดตัวขึ้นได้บ้าง ถ้าตัวเลขติดเชื้อรายวันน้อย ซึ่งติดตามว่าจะมีการกระจายไปที่อื่นหรือไม่ ให้แนวรับ 1,420 จุด แนวต้านที่ 1,450 จุด