นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยหลังลงนามในประกาศกรมการขนส่งทางราง เรื่อง มาตรการพึงปฏิบัติการจัดการระบบขนส่งทางรางภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) (ฉบับที่ 6) ว่าตามที่รัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 และต่อมาขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2564 โดยพบผู้ติดเชื้อภายในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มในการแพร่กระจายไปยังพื้นที่อื่นได้ผ่านเส้นทางคมนาคมขนส่งรูปแบบต่างๆ นั้น
เพื่อให้สอดคล้องตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) กระทรวงมหาดไทย (จังหวัดสมุทรสาคร) และกระทรวงสาธารณสุขในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) กรมการขนส่งทางรางจึงประกาศมาตรการพึงปฏิบัติการจัดการระบบขนส่งทางราง เพื่อขอความร่วมมือหน่วยงานผู้ให้บริการระบบขนส่งทางรางทุกระบบถือปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 การให้บริการเดินรถไฟโดยสารข้ามเขตพื้นที่จังหวัดที่มีเส้นทางบริการภายในเขตพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยปฏิบัติ ดังนี้
(1) ห้ามจอดรับ-ส่งผู้โดยสาร ณ ป้ายหยุดรถและที่หยุดรถภายในเขตพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครโดยเด็ดขาด
(2) งดบริการเดินรถไฟโดยสารภายในเขตพื้นที่จังหวัดดังกล่าวในช่วงเวลาเคอร์ฟิว ระหว่างเวลา 22.00 นาฬิกา ถึงเวลา 05.00 นาฬิกาของทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2564 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
(3) เพิ่มความเข้มงวดสูงสุดในการคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสาร หากพบว่ามีอุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส หรือมีอาการเข้าข่ายผู้ติดเชื้อไวรัสฯ ให้ผู้โดยสารงดการใช้บริการและประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุข พร้อมแนะนำข้อพึงปฏิบัติที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ
(4) เฝ้าระวังและคัดกรองผู้โดยสารเพื่อไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้าหรือออกนอกพื้นที่เขตจังหวัดสมุทรสาคร โดยตรวจสอบเอกสารหรือบัตรยืนยันตัวบุคคล
(5) ผู้โดยสารชาวไทยที่เดินทางออกหรือเข้าเขตพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ในช่วงเวลา ระหว่าง 05.00 นาฬิกา ถึงเวลา 22.00 นาฬิกาของทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2564 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง จะต้องกรอกเอกสารระบุข้อมูลการเดินทาง เพื่อประโยชน์ในการสอบสวนโรค
(6) ประกาศแจ้งหรือประชาสัมพันธ์ภายในสถานีและขบวนรถให้ประชาชนรับทราบตาม ข้อ 1 (1) ถึง (5)
ข้อ 2 ให้หน่วยงานผู้ให้บริการระบบรถไฟและรถไฟฟ้ายกระดับความเข้มข้นในการดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ดังนี้
(1) เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาด เช็ด พ่น ฆ่าเชื้อโรคบริเวณจุดมือสัมผัส ภายในสถานีและขบวนรถ พร้อมทั้งทำความสะอาดเหรียญโดยสาร (Token) ก่อนนำกลับมาใช้ในแต่ละวัน
(2) กวดขันการคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารก่อนเข้าระบบ และให้ผู้โดยสารใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือก่อนและหลังใช้บริการ
(3) ขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า งดการสนทนา งดใช้โทรศัพท์สนทนาภายในขบวนรถ และให้ผู้โดยสารเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล โดยเคร่งครัด
(4) ควบคุมไม่ให้เกิดความหนาแน่นแออัดภายในสถานีและในขบวนรถ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อฯ
(5) ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้โดยสารให้ใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ เพื่อประโยชน์ในการสอบสวนโรค
(6) ประชาสัมพันธ์มาตรการพึงปฏิบัติของผู้โดยสารและผลการดำเนินมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ของหน่วยงานผู้ให้บริการให้ประชาชนทราบ พร้อมทั้งรายงานให้กรมการขนส่งทางรางเพื่อประกอบการดำเนินการกำกับ ติดตามและประเมินสถานการณ์ ก่อนรายงานกระทรวงคมนาคมต่อไป
กรมการขนส่งทางรางขอว่าประกาศดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อการวางเพื่อวางมาตรฐานการให้บริการเดินรถ การให้บริการ ในระบบรางให้สอดคล้องกับ ข้อกำหนดภายใต้ พ.ร.ก. การบริหารราชการฯ และยึดถือความปลอดภัย ความสะดวก ในการเดินทางเป็นสำคัญ ขณะเดียวกันเพื่อให้หน่วยปฏิบัติไปในแนวทางใกล้เคียงกัน ซึ่งก่อนที่จะออกประกาศ ได้มีการหารือผู้ให้บริการทุกรายแล้วเพื่อความรอบคอบ และเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน หน่วยงานผู้ให้บริการ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และเป็นลักษณะขอความร่วมมือตั้งแต่วันนี้ (21 ธันวาคม 2563) เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จะคลี่คลายหรือมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น จึงขอความร่วมมือทั้งผู้ให้บริการระบบขนส่งทางรางและผู้โดยสารปฏิบัติตามประกาศดังกล่าว เพื่อร่วมกันลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ ต่อไป