หุ้น STEC บวก 1.59% อยู่ที่ 6.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท เมื่อเวลา 10.20 น.โดยเปิดตลาดที่ 6.35 บาท ราคาปรับขึ้นสูงสุดที่ 6.45 บาท และราคาปรับลงต่ำสุดที่ 6.35 บาท
วานนี้ คณะกรรมการ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)อนุมัติขยายเวลาก่อสร้างโครงการแอร์พอร์ตลิงค์อีก 180 วัน ซึ่งบทวิเคราะห์ บล.นครหลวงไทย แนะ"ซื้อเก็งกำไร" STEC เพราะการขยายระยะเวลายังอยู่ระหว่างให้อัยการสูงสุดประเมินว่าจะนับรวมกับการขยายเวลาก่อสร้างจากการที่ ร.ฟ.ท. ส่งมอบพื้นที่ล่าช้าหรือไม่ หากแยกส่วนกันก็มีโอกาสที่การขยายเวลาจะเพิ่มขึ้นไปถึง 550 วัน
แต่อย่างไรก็ตาม ประเมินว่างานก่อสร้างส่วนที่เหลือของโครงการดังล่าวน่าจะเสร็จทันตามระยะเวลาขั้นต่ำที่ 370 วัน เนื่องจากปัจจุบันการก่อสร้างมีความคืบหน้าที่รวดเร็วถึง 65-70% ของมูลค่างานทั้งหมด ซึ่งสอดคล้องกับการที่บริษัท ซีเมนส์ จำกัด เตรียมจัดส่งขบวนรถไฟฟ้าประเภทรถด่วน(Express) สำหรับให้บริการในโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบของร.ฟ.ท.จำนวน 2 ขบวน จากทั้งหมด 9 ขบวน มายังประเทศไทย โดยคาดขบวนรถดังกล่าวจะเดินทางถึงท่าเรือแหลมฉบังในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2550 และจะเริ่มทดสอบการเดินรถได้ในช่วง 2H/51
แม้ผลการดำเนินงานของ STEC ในอนาคตคาดจะเติบโตอย่างมั่นคง แต่ประเมินว่า ราคาหุ้นของ STEC ยังถูกกดดันและผันผวนต่อเนื่อง จากประเด็นข่าวโครงการ ARL ทำให้ไม่สามารถปรับตัวขึ้นตามแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัท จนกว่าจะถึงช่วงต้นปี 2551 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โครงการมีความคืบหน้าชัดเจนและสามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเสร็จได้ทันตามกำหนดเวลาที่วางไว้หรือไม่ จากปัจจัยดังกล่าวทำให้แนะเพียง“ซื้อเก็งกำไร"โดยมีราคาเหมาะสมในปี 2550 เท่ากับ 8 บาท/หุ้น
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--