บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินภาพรวมตลาดหุ้นไทยช่วงก่อนหยุดยาวยังคงผันผวนต่อจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ แม้จะให้น้ำหนักต่อมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี อาทิ คนละครึ่ง-ช้อปดีมีคืน-เราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้การเติบโตของเศรษฐกิจไทยเพิ่มอีก 0.2% ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกให้กระทรวงการคลังเตรียมขยับเพิ่มประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ปี 64 อีกทั้งความคืบหน้าของวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เพื่อช่วยลดความรุนแรงของการแพร่ระบาดซ้ำในอนาคต
ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่จะส่งผลต่อการลงทุน อาทิ การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐในเร็วๆนี้ หรืออย่างช้าภายในต้นปี 2564 หลังนายโจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐแล้ว และคาดว่าราคาน้ำมันผันผวนอยู่ในกรอบ 40-50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังโอเปกขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตยาวถึงปลายปีเพื่อลดอุปทานที่อยู่สูงท่ามกลางการระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-19
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวเพิ่มว่า ปัจจัยที่น่าจับตาในช่วงก่อนวันหยุดยาว อาทิ ทางการจะประกาศล็อกดาวน์รอบใหม่หรือไม่ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งสุดท้ายของปี 2563 การแถลงดัชนีอุตสาหกรรมของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) การรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ถึงภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค และดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค รวมทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีการรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดขั้นพื้นฐานว่าปีหน้าเศรษฐกิจไทยจะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้เร็วมากน้อยแค่ไหน
ดังนั้น ประเมินดัชนีปี 64 น่าจะแกว่างตัวในกรอบ 1,470-1,650 จุด พร้อมแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี โดยเฉพาะหุ้นปลอดภัย (Defensive) แนะนำ ADVANC, DIF, GPSC และ GULF ส่วนรองลงมากรณีที่ราคาหุ้นปรับลงเป็นจังหวะซื้อสะสมกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากวัคซีน MINT, CENTEL , ERW, BH และ BDMS