บมจ.เอสทีพี แอนด์ ไอ (STPI) อยู่ระหว่างรอผลเข้าประมูลงานประกอบโครงสร้างเหล็กในโรงแยกก๊าซของออสเตรเลีย มูลค่า 8.5 พันล้านบาท หรือ 250 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดทราบผลในเดือนพ.ย.นี้ ขณะเดียวกันบริษัทยังเจรจากับพันธมิตร 3-4 รายให้เข้ามาร่วมรับงานดังกล่าว ซึ่งรวมทั้ง บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น(STEC) ด้วย
แหล่งข่าวจาก STPI กล่าวว่า บริษัทได้ยื่นงานประมูลโครงการดังกล่าวในชื่อของบริษัทเอง แต่เป็นส่วนงานของบริษัทโดยตรงประมาณ 4 พันล้านบาท หรือราวครึ่งหนึ่งของมูลค่างาน จึงต้องหาพันธมิตรเข้ามาช่วยรับงานด้วยกัน ซึ่งบริษัทได้เสนองานให้กับ STEC เนื่องจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเป็นกลุ่มเดียวกัน นอกจากนี้ก็ยังเสนอไปรายอื่นด้วย
ทั้งนี้ งานดังกล่าวมีคู่แข่งจากอินโดนีเซียที่เข้ามาสู้ราคา แต่บริษัทยังเชื่อว่าบริษัทมีแนวโน้มได้รับงานดังกล่าว โดยคาดว่าจะรู้ผลไม่เกินเดือนพ.ย.นี้ และจะเริ่มงานในเดือนธ.ค.
"หุ้นที่ขึ้นวันนี้ ผมคิดว่าเป็นแรงเก็งกำไร เพราะหลายๆ House ที่มาซื้อ STPI เขาดูว่าถ้าได้งานประกอบโครงเหล็ก กำไรจะกลับมาดี เขาก็ตั้งความหวังไว้ว่า STPI จะได้งาน ก็กลายเป็นการเก็งกำไรราคาหุ้นขึ้นมา" แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าว กล่าวว่า หากบริษัทได้งานประกอบโครงสร้างเหล็กดังกล่าว ก็จะทำให้งานในมือเพิ่มขึ้นประมาณ 4 พันล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิ 20% ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้เพียง 5% หรือประมาณ 200 ล้านบาท และปีหน้าจะรับรู้รายได้ในสัดส่วน 60% ก็จะส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัทในปีหน้าโตก้าวกระโดด
อย่างไรก็ตาม หากบริษัทไม่ได้งานของออสเตรเลีย ก็ยังมีงานอื่นที่เข้าประมูล ได้แก่ งานสนามบินการ์ต้าในส่วนต่อขยาย งานของนิวซีแลนด์ โดยขณะนี้พยายามออกไปประมูลงานต่างประเทศเพื่อมาทดแทนงานในประเทศที่ชะลอตัวไป ซึ่งปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ(Backlog) ประมาณ 1 พันล้านบาท
อนึ่ง STPI มีกลุ่มชาญวีรกูลเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันที่ถือหุ้นใหญ่ใน STEC
เช้านี้ ราคาหุ้น STPI ปรับขึ้นไปแล้ว 11.38% มาที่ 6.85 บาท บวก 0.70 บาท โดยราคาปรับชึ้นไปสูงสุด 6.90 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดนับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นเมื่อพ.ค. 39
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--