บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) (STGT) วางเป้าหมายใหม่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งเบอร์ 1 ในตลาดถุงมือยางธรรมชาติของโลกภายใน 3-4 ปี แม้วัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังจะทยอยออกมาใช้กันได้ในปีหน้า แต่ไม่ได้ทำให้ความต้องการถุงมือยางเพื่อใช้ในการแพทย์ลดลง โดยเฉพาะเมื่อหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยยังมีการระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น บริษัทจึงเร่งแผนขยายกำลังการผลิตให้เร็วขึ้นจากเดิมกำหนดเป้า 1 แสนล้านชิ้นภายในปี 75 ก็จะขยับขึ้นมาเป็นปี 69
จากความต้องการของตลาดและกำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นตามแผนงาน จะช่วยผลักดันให้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาผลงานทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ทุกไตรมาส ก็คาดว่าจะทำได้อีกในช่วงต่อไปจากนี้ ซึ่งในปี 64 เชื่อว่ารายได้และกำไรของบริษัทจะเติบโตจากแรงหนุนกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากปี 63 ราว 15% และการปรับขึ้นราคาขายสินค้าที่จะส่งมอบในปีหน้า
ส่วนแผนการเพิ่มสัดส่วนผู้ลงทุนด้วยการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (Secondary Listing by way of Introduction) คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในไตรมาส 2/64