บมจ.เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) (KEX) พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันแรกพรุ่งนี้ หลังจากเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 300 ล้านหุ้น ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 28 บาท ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมทั้งจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย
นางสาววีณา เลิศนิมิตร กรรมกา บล.ไทยพาณิชย์ และนายประเสริฐ ตันตยาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (MBKET) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วมหุ้น KEX กล่าวว่า จากการเสนอขายหุ้น IPO ของ KEX คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 8,400 ล้านบาท มีความต้องการจองซื้อของนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศมากกว่า 23 เท่าของจำนวนหุ้นที่จัดสรรแก่นักลงทุนสถาบัน และประมาณ 10 เท่า จากกลุ่มนักลงทุนหลักแบบเฉพาะเจาะจง (Cornerstone Investors) ของจำนวนหุ้นที่จัดสรรไว้ เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ KEX ในฐานะผู้นำการให้บริการจัดส่งพัสดุด่วนของประเทศไทย ด้วยศักยภาพที่โดดเด่น และแบรนด์ที่แข็งแกร่ง
ด้วยศักยภาพและความแข็งแกร่งของบริษัท การเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากผู้ใช้บริการ รวมถึงมีรูปแบบธุรกิจที่มั่นคงสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องด้วยผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (60-62) บริษัทมีรายได้จากการขายและให้บริการที่ 6,626.41 ล้านบาท 13,565.35 ล้านบาท และ 19,781.93 ล้านบาทตามลำดับ และมีกำไรสุทธิที่ 730.26 ล้านบาท 1,185.10 ล้านบาท และ 1,328.55 ล้านบาท ตามลำดับ
เคอรี่ เอ็กซ์เพรส มีเครือข่ายที่แข็งแกร่งและครอบคลุมทุกจังหวัด ด้วยจุดให้บริการกว่า 15,000 แห่ง ศูนย์คัดแยกพัสดุ 9 แห่ง ศูนย์กระจายพัสดุกว่า 1,200 แห่ง รถรับส่งพัสดุประมาณ 25,000 คัน สอดคล้องกับกลยุทธ์ Kerry Express Everywhere เคอรี่ เอ็กซ์เพรส ทุกที่ทั่วไทย
บริษัทยังขยายขอบข่ายการบริการให้มากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้า อาทิ การรับชำระเงินปลายทางด้วยหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเงินสด Rabbit LINE Pay และ QR Payment บริการจัดส่งพัสดุแบบ Sameday ทั้งในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ซึ่งจะสามารถเปิดให้บริการได้ทั่วประเทศเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ ยังได้นำแอปพลิเคชันมาอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าเพื่อใช้บริการตรวจสอบสถานะพัสดุ การเรียกรถเข้ารับ และการเข้าถึงสิทธิประโยชน์จาก Kerry Express Loyalty Program เพื่อแลกรับสิทธิพิเศษ