ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดอ่อนตัวลงเล็กน้อยในวันนี้ (21 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีท่าทีระมัดระวังต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น
แถลงการณ์ของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่กล่าวว่า วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดปล่อยกู้จำนองเพื่อซื้อบ้านของสหรัฐซึ่งมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นนั้นส่งผลกระทบต่อบรรยาการซื้อขายในตลาดด้วยเช่นกัน
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ปิดลบ 10.24 จุด หรือ 0.3% แตะที่ 3,542.22 จุด ปริมาณการซื้อขาย 1.8 พันล้านหุ้น มูลค่า 2.0 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
ชาน ไหว่ ชี หัวหน้าฝ่ายวิจัยของบล.ฟิลลิป ได้แนะนำนักลงทุนให้อยู่นอกตลาดช่วง 2-3 สัปดาห์หน้าจนกว่าจะมีแนวโน้มที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัท เนื่องจากอาจจะมีปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาจากวิกฤตซับไพรม์ซ่อนเร้นอยู่
ทางด้านเค อาจิต นักวิเคราะห์จากยูโอบี เคย์ เฮียน กล่าวว่า นักลงทุนกำลังประเมินสถานการณ์อีกครั้งหลังจากดัชนีสเตรทส์ไทม์ทะยานขึ้นมากกว่า 100 จุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา อันเป็นผลจากการที่เฟดลดดอกเบี้ยสูงเกินคาด โดยนักลงทุนควรจะให้ความสำคัญกับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในระยะใกล้เพื่อพิจารณาภาพรวม
ในกลุ่มหุ้นบลูชิปที่ปรับตัวลงได้แก่ หุ้นสิงเทลปิดลบ 6 เซนต์ หุ้นเอสทีเอ็นจิเนียริ่ง ปรับตัวลง 12 เซนต์ และหุ้นสิงคโปร์ เพรส โฮลดิ้งส์ ขยับลง 6 เซนต์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--