นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไพโอเนียร์ มอเตอร์ (PIMO) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจปี 64 บริษัทคาดว่ารายได้เติบโต 20% จากปีนี้ ตามแผนธุรกิจที่วางเป้าหมายจะใช้เงินลงทุน 100 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจ รองรับความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นของมอเตอร์สำหรับสระว่ายน้ำภายในบ้าน รวมถึงวางเป้าการเติบโตแบบยั่งยืนและวางตำแหน่งหุ้น PIMO ให้เป็นหุ้น Laggard และ Growth Stock ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน
สำหรับแผนธุรกิจที่จะช่วยหนุนการเติบโต มาจากการเพิ่มกำลังผลิตมอเตอร์ชนิดพิเศษ BLDC จากปัจจุบัน 50-70 ลูก/วัน เป็น 120-140 ลูก/วัน เพื่อส่งไปจำหน่ายให้กับลูกค้าอเมริกา และเพิ่มกำลังการผลิตมอเตอร์ที่จำหน่ายในประเทศ ด้วยงบลงทุน 100 ล้านบาท นอกจากนี้ยังเพิ่มสินค้าเกี่ยวกับพัดลมและแอร์ ที่ปัจจุบันมีคำสั่งผลิตอยู่ 2 ผลิตภัณฑ์ ให้เป็น 5 ผลิตภัณฑ์และเตรียมนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมาจำหน่ายผ่านช่องทางของบริษัทอีกด้วย
อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์โควิด-19 ยังระบาดก็จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจและผลประกอบการของบริษัท แต่เชื่อว่าไม่ถึงขั้นเสียหายมาก เนื่องจากมอเตอร์สำหรับสระว่ายน้ำภายในบ้าน (สระว่ายน้ำส่วนตัว) ทั้งในและนอกประเทศยังมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับบริษัทมีเทคโนโลยีการผลิตสินค้าประเภทมอเตอร์ชนิดพิเศษ BLDC ที่เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
"การลงทุนในปีนี้บริษัทได้ซื้อเครื่องจักรประเภท Automation และอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตสินค้า, โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ERP ทดแทนของเดิม เพื่อรองรับการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีโครงการลงทุนเครื่องจักร เพื่อผลิตสินค้ารุ่นใหม่ที่พร้อมจะจัดจำหน่ายในปีหน้า ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เครื่องสูบน้ำหอยโข่ง และการพัฒนามอเตอร์กำลัง 1, 1.5 และ 2.8 แรงม้า เพื่อส่งออกไปตลาดออสเตรเลีย ยุโรป สหรัฐและแคนาดา" นายวสันต์ กล่าว