ผู้บริหาร บล.ภัทร (PHATRA) ระบุยังไม่มีสัญญาณจากบล.เมอร์ริล ลินช์ ในการบอกเลิกสัญญาความร่วมมือเป็น exclusive partner แม้จะมีข่าวว่าจะเข้าซื้อไลเซนส์บล.เอเพกซ์ และหากจะเลิกสัญญาจริงต้องบอกล่วงหน้า 6 เดือน โดยสัญญาฉบับปัจจุบันมีผลถึงเดือน ธ.ค.50 ครอบคลุมงานด้านบทวิจัย, ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ และ วาณิชธนกิจ
"สัญญาณเราระบุไว้ชัดเจนว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงจะบอกกันก่อน 6 เดือน ล่วงหน้า คือถ้าจะบอกยกเลิกวันนี้ก็มีผลอีก 6 เดือนข้างหน้า ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณอะไรออกมา มีสัญญาณแค่ว่าที่ทำอยู่ happy แล้ว" นายสุวิทย์ มาไพศาลสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PHATRA กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายสุวิทย์ กล่าวว่า ภายใต้สัญญาฉบับปัจจุบันเมอร์ริล ลินช์จะส่งคำสั่งซื้อขายทั้ง 100% ที่รับมาผ่าน PHATRA ดังนั้นรายได้จากธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ของ PHATRA จะยังไม่ได้รับผลกระทบ
และแม้ว่าเมอร์ริล ลินช์ จะได้ใบอนุญาตของบล.เอเพ็กซ์ แต่ PHATRA ก็เชื่อว่าเมอร์ริล ลินช์ก็จะไม่ทำธุรกิจซ้ำกับที่ทำสัญญากับ PHATRA เพราะรับทราบมาตลอดว่าเมอร์ริล ลินช์ พยายามหาโอกาสการทำธุรกิจอื่นที่ PHATRA ไม่ได้ทำ คือด้านตราสารหนี้และ ตราสารอนุพันธ์
"เราก็เข้าใจ สิ่งที่เขาอยากทำเป็นธุรกิจที่เราไม่ได้ Active เรื่องนี้เรารับทราบอยู่แล้ว คือเรารู้ว่าเขาหาโอกาสทำธุรกิจ แต่ไม่ทราบเป็นบริษัทอะไร เขาบอกเราว่าเขาเดินเรื่องนี้อยู่..ผมก็รู้ว่าเขาพยายามหาโอกาสทำซึ่ง ถ้าเขาจะทำอะไร ในธุรกิจที่ทำกับเราอยู่ก็จะอยู่อย่างนี้"
"เรื่องการต่อสัญญายังไม่มีการบอกกล่าว แต่ยืนยันที่ทำด้วยกัน ทั้งสองคนคิดว่าการที่ทำอยู่ด้วยกันในวันนี้มีประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่ และก็ยังยืนยันมาตลอดเพราะพูดคุยกันมาตลอด ผมคงยืนยันได้แค่นี้ ผมคงพูดอะไรที่คาดการณ์ไม่ได้ ณ ปัจจุบัน เราสองคนยัง happy ความสัมพันธ์ที่มีต่อกันและกัน" นายสุวิทย์ กล่าว
ทั้งนี้ เดิม PHATRA เป็นบริษัทลูกของเมอร์ริลลินช์ ตั้งแต่ปี 41โดยเมอร์ริลลินช์ถือหุ้น อยู่ 51% และในปี 46 มีการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น ทำให้สถานะการทำธุรกิจจากฐานะบริษัทลูกมาเป็นพันธมิตรธุรกิจกัน นับตั้งแต่ปี 46 เป็นต้นมา
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--