นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะผันผวนอิงทางลง จากความกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศ ที่เริ่มกลัวว่าจะกระทบการท่องเที่ยวอันเป็นรายได้หลักของประเทศ จากที่เมื่อวานนี้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ออกมาตรการล็อกดาวน์กิจการบางประเภท ทำให้เห็นว่าภาครัฐฯเริ่มตระหนกถึงการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ไม่ธรรมดาแล้ว
นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวของหุ้น DELTA ก็มีผลต่อตลาดมาก และก็ไม่รู้ว่า DELTA ทิศทางจะเป็นอย่างไร ทำให้เป็นความเสี่ยงของตลาดฯ และในวันนี้ตลาด TFEX ก็มีการปิดซีรี่ย์ Z ซึ่งจะทำให้ตลาดผันผวนได้อีก
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนบวก ตอบรับปัจจัยบวกจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แล้ว และเชื่อว่า Fund Flow ยังคงไหลเข้ามาในเอเชียอยู่ แต่ตลาดหุ้นไทยอาจสวนทางตลาดภูมิภาคจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศ และยังมีเรื่อง DELTA อีก ซึ่งถ้าตัด DELTA ออกไปตลาดก็คงจะแกว่งไซด์เวย์
พร้อมให้แนวรับ 1,430 จุด ส่วนแนวต้าน 1,460 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (28 ธ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,403.97 จุด เพิ่มขึ้น 204.10 จุด (+0.68%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,735.36 จุด เพิ่มขึ้น 32.30 จุด (+0.87%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,899.42 จุด เพิ่มขึ้น 94.69 จุด (+0.74%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 2 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 82.35 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 175.82 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 17.84 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 1.95 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 8.51 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.47 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (28 ธ.ค.63) 1,452.67 จุด ลดลง 33.64 จุด (-2.26%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,014.65 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.63
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.64 ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (28 ธ.ค.63) ปิดที่ 47.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 61 เซนต์ หรือ 1.26%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 ธ.ค.63) อยู่ที่ 1.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.13 แข็งค่าเล็กน้อยจากเย็นวานนี้ หลังขาดปัจจัยใหม่ มองกรอบ 30.10-30.20
- สกพอ.เดินหน้าเมกะโปรเจค "อีอีซี" ปี 2564 ลุยส่งมอบพื้นที่รถไฟความเร็วสูง-เมืองการบิน เตรียมความพร้อมพัฒนามักกะสัน รฟท.เร่ง "ซีพี" แจงข้อมูลย้ายสถานีไฮสปีด เดินหน้าเวนคืนที่ดิน ส่งมอบพื้นที่ช่วงแรก ต.ค.64
- "สุพัฒนพงษ์" โชว์แผนพลังงานปี 64 มีเม็ดเงินลงทุนขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพลังงานสะอาด ยอดรวมเฉียด 1.3 แสนล้านบาท เตรียมเสนอครม. เห็นชอบแผนชาติ เตรียมลุยทั้งโรงไฟฟ้าชุมชน ขยะ โซลาร์ภาคประชาชน ส่งเสริม E20 ปิโตรเคมีระยะที่ 4 เปิดสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่ พร้อมทำแผนรับมือหากต้องล็อกดาวน์อีกรอบ แต่มั่นใจไม่เกิดขึ้น
- สศค. เผย อยู่ระหว่างทบทวนเป้าจีดีพีปี 63-64 ใหม่ ในเดือนม.ค.ปีหน้า ขณะนี้รอประเมินผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่ เชื่อผลกระทบไม่รุนแรงเท่าล็อกดาวน์รอบแรก ขณะเศรษฐกิจพ.ย.ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ทั้งการผลิต การส่งออก บริโภคเอกชน หนุนความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นสูงสุดในรอบ 9 เดือน
- ธปท. ยอมปรับเกณฑ์คุณสมบัติเอสเอ็มอีขอกู้ซอฟต์โลน หวังเพิ่มช่องทางเข้าถึงสินเชื่อมากขึ้น ช่วยประคองธุรกิจ หลังสถานการณ์โควิด-19 ยังยืดเยื้อ บอร์ด สสว.เห็นชอบ แผนส่งเสริมเอสเอ็มอีพร้อมเผยแผนพัฒนาปีงบ 65 รวม 114 โครงการ งบประมาณ 5,334 ล้านบาท
*หุ้นเด่นวันนี้
- BCPG (เคจีไอฯ)"เก็งกำไร"เป้าพื้นฐาน 17.3 บาท ภาวะลานีญ่าของโลกล่าสุดยัง Peak (ข้อมูลกรมอุตุฯ ออสเตรเลีย) สะท้อนแนวโน้มผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่ลาวยังดีต่อเนื่องใน Q4/63 และจากงบลงทุนปี 2564 ของ BCP ที่ตั้งเป้าไว้ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท โดยจะลงที่ธุรกิจโรงไฟฟ้าของ BCPG ราว 75% (1.7 หมื่นล้านบาท) คาดมีโอกาสที่จะมีการลงทุนใหม่ที่ยังไม่อยู่ในประมาณการอีกมาก เนื่องจากงบ CAPEX ปี 2564 ในประมาณการของฝ่ายวิจัยฯยังไม่ได้รวมโครงการใหม่ที่ยังไม่ประกาศเป็นทางการ (ประเมิน CAPEX เพียง 4 พันล้านบาท)
- XO (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 11.60 บาท คาดกำไร Q4/63 ลดลง Q-Q เพราะ Low season และขาดแคลนเรือขนส่งชั่วคราว แต่เติบโตสูง Y-Y เพราะฐานปีก่อนต่ำ อีกทั้งอยู่ระหว่างขยายช่องทางการขายในแต่ละประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งขยาย outlet ใน Modern trade ขยายช่องทาง Online ในตลาดจีน โดยเน้นขยายไปกับ Distributor รายเดิมในยุโรปและจีน ผู้บริหารตั้งเป้ายอดขายปีหน้าโต 10-15% หากทำได้ตามเป้า จะเป็น upside ต่อประมาณการที่คาดกำไรปีหน้า -23% เพราะฐานปีนี้สูง(กรรมการอิสระของฟินันเซีย ไซรัส เป็นกรรมการอิสระของ XO)
- CBG (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 145 บาท คาดการณ์กำไรสุทธิ Q4/63 พุ่งทำ New high มาตรการคนละครึ่งและผลิตภัณฑ์ใหม่ Woody C+ Lock หนุนยอดขาย ขณะที่ต้นทุนลดลงจากการเดินเครื่องโรงงานผลิตขวดและแพ็กเกจจิ้งเอง