RS ปรับแนวผลิตหนังต้องได้ทั้งเงิน-กล่อง/ปี 51 เบื้องต้นลงทุน 100 ลบ.

          บมจ.อาร์เอส (RS)ปรับกลยุทธรุกธุรกิจภาพยนตร์รับสถานการณ์การเมืองผ่อนคลาย ซึ่งน่าจะส่งผลวงการภาพยนตร์โดยเฉพาะภาพยนตร์ไทยสดใสขึ้น ตั้งเป้าผลิตภาพยนตร์เน้นความใหม่ สด เข้าถึงความต้องการของคนดู โดยทำ Reserch อย่างต่อเนื่องเพื่อตามเทรนด์ให้ทันและเข้าไปอยู่ในใจของคนดูให้ได้ ตั้งงบสร้างเบื้องต้นแล้วกว่า 100 ล้านบาท 
          นายพรชัย ว่องศรีอุดมพร ผู้ช่วยผู้อำนวยการจัดจำหน่ายและบริหารงานสื่อโรงภาพยนตร์ RS เปิดเผยว่า ในปีหน้า RS มีแผนนำภาพยนตร์เข้าฉาย 4-5 เรื่องในเบื้องต้น ใช้งบลงทุนรวมกว่า 100 ล้านบาท โดยเตรียมเปิดกล้องตั้งแต่ต.ค.นี้เป็นต้นไป ทั้งแนวโรแมนติค คอมมาดี้ สยองขวัญ คาดว่ารายได้จากธุรกิจภาพยนตร์น่าจะดีไม่แพ้ปีนี้ที่น่าจะมีรายได้ราว 360 ล้านบาท
          "ถึงแม้จำนวนหนังปีหน้าจะน้อยกว่าปีนี้ที่มีทั้งหมด 6 เรื่อง แต่ปริมาณไม่ใช่สิ่งสำคัญ อยู่ที่ Box Office มากกว่า คือ ถ้าทำภาพยนตร์ออกมาเยอะ แต่ Box Office ไม่ได้ตามเป้าก็ไม่มีประโยชน์"นายพรชัย กล่าว
          ในปีนี้ RS มีภาพยนตร์รอฉายในปีนี้อีก 2 เรื่อง คือ "โปงลางสะดิ้ง" ซึ่งนำแสดงโดย บีม ดีทูบี และวงโปงลางสะออน ซึ่งตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 70 ล้านบาท กำหนดเข้าฉายวันที่ 29 พ.ย.นี้ และอีกเรื่อง คือ "แรกบิน"นำแสดงโดย ศรราม เทพพิทักษ์ คาดว่าจะเข้าฉายประมาณวันที่ 20 ธ.ค. ตั้งเป้ารายได้ไว้ประมาณ 30-40 ล้านบาท 
          สำหรับ"บ้านผีสิง"ที่เข้าฉายเมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา คาดว่าจะทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท ซึ่งเป็น Base ของบริษัทว่าภาพยนตร์ทุกเรื่องที่เข้าฉายจะต้องทำรายได้อยู่ในระดับนี้ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้มีโอกาสทำรายได้สูงกว่าที่คาด เนื่องจาก เป็นภาพยนตร์ที่สะท้อนมุมมองใหม่ๆในเรื่องของความรักและความไว้ใจซึ่งกันและกันของคนในครอบครัว และอีกส่วนหนึ่งเป็นการสร้างอิงคดีอาชญากรรมจริงที่เกิดขึ้นในอดีต
          หากไม่นับรวมงานของ RS แล้วยังมีภาพยนตร์ไทยที่มีโปรแกรมเข้าฉายในปีนี้ อีกหลายเรื่อง เช่น เพื่อน...กูรักมึงว่ะ, กิ๊ก 2 (Gig Number 2), ผีเลี้ยงลูกคน, บอดี้ ศพ # 19, สลัดตาเดียวกับเด็ก 200 ตา, โอปปาติก (โอ-ปะ-ปา-ติ-กะ)-เกิดอมตะ ฯลฯ
          ส่วนที่กำลังถ่ายทำอยู่ เช่น ปืนใหญ่จอมสลัด, องค์บาก2, Burn, โอปปาติก, Chocolate ของค่ายสหมงคลฟิล์ม, The Coffin ของค่ายที่ฟ้า, หนุมานคลุกฝุ่น, Deep in the Jungle, ครอบครัวตัวดำ, อิน จัน, ผีตาหวาน อาจารย์ตาโบ๋ ของค่ายพระนครฟิล์ม, กอด ของค่าย GTH, เดอะสกรีน ผีจ้างหนัง ของไฟว์สตาร์โปรดักชั่น (จากข้อมูลของสมาพันธ์ภาพยนตร์ไทย)
*คาดรายได้ตามเป้า 360 ลบ. หลังแนวโน้ม H2 ดีกว่า H1
          นายพรชัย กล่าวว่า ธุรกิจภาพยนตร์ของบริษัทในครึ่งปีหลังจะใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก และอาจจะดีกว่าครึ่งแรกในแง่ของรายได้และจำนวนผู้ชม เนื่องจากมั่นใจเนื้องานที่ผลิตออกมาน่าจะตรงใจผู้ชมมากขึ้น
          "จากที่ผมคาดของผมเองนะ ครึ่งปีหลังน่าจะใกล้เคียงครึ่งปีแรก และอาจจะดีกว่าครึ่งแรกด้วยซ้ำไป แต่คงจะยังไม่มีการปรับเป้ารายได้ของปีนี้"นายพรชัย กล่าว
          RS ตั้งเป้ารายได้ธุรกิจภาพยนตร์ในปีนี้ไว้ 360 ล้านบาท และครึ่งปีแรกสามารถทำได้เกินครึ่งหนึ่งของเป้าหมายรวมแล้ว โดยรายได้ธุรกิจภาพยนตร์คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของ RS
          นายพรชัย กล่าวว่า ช่องทางรายได้ธุรกิจภาพยนตร์ของ RS มาจากการค่าตั๋วประมาณ 50% ที่เหลือมาจากสายหนังต่างจังหวัด, โฮม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (VCD, DVD), ฟรีทีวี และขายสิทธิ์ให้ช่องเคเบิ้ลทีวีของ UBC รวมกัน