หุ้น EA, GPSC และ GULF ราคาขยับขึ้น โดยเมื่อเวลา 11.08 น.หุ้น EA บวก 3.55% มาอยู่ที่ 51.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 777.90 ล้านบาท
หุ้น GPSC บวก 3.39% มาอยู่ที่ 76.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 2,197.76 ล้านบาท
หุ้น GULF บวก 0.73% มาอยู่ที่ 34.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 249.19 ล้านบาท
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า กลุ่มโรงไฟฟ้าได้รับผลกระทบเชิงลบที่จำกัดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศ เนื่องจากสัญญาขายไฟมีรายได้ที่มั่นคง และธุรกิจกระจายตัวทั้งในและต่างประเทศ
พร้อมแนะนำ"เก็งกำไร"หุ้นบมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ทางเทคนิคให้แนวต้าน 35.75 บาท ส่วนแนวรับ 33.75 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 32.50 บาท
ด้านบล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้นบมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ให้ราคาเป้าหมาย 85 บาท หลังมองว่า GPSC มีโอกาสที่จะได้เข้าร่วมพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ 600 เมกะวัตต์ (MW) ในเมียนมา หลังบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP)ได้รับอนุมัติสิทธิการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติในเมียนมา ซึ่งเป็นการลงทุนด้านพลังงานแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงการผลิตกระแสไฟฟ้า ประกอบด้วย การสำรวจและการพัฒนาแหล่งผลิตปิโตรเลียม ธุรกิจโรงไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ โครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานแก่ประเทศเมียนมา
ทั้งนี้ หากอิงอัตราผลตอบแทน EIRR ที่ราว 12% สัดส่วน D/E ที่ 3:1 และ cost per MW ที่ราว 30 ล้านบาท หาก GPSC ถือ 60% คาดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับหุ้น GPSC อีกราว 3.85 บาท/หุ้น