ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 39.10 จุด ขณะนักลงทุนรอเฟด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 18, 2007 07:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงพอประมาณเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงรอคอยการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันอังคารนี้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 39.10 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 13,403.42 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ขยับลง 7.60 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 1,476.65 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับลดลง 20.52 จุด หรือ 0.79% ปิดที่ 2,581.66 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 2.47 พันล้านหุ้น นับเป็นวันที่มีการซื้อขายเบาบางที่สุดวันหนึ่งในปีนี้ ซึ่งสะท้อนว่านักลงทุนจำนวนมากเลือกที่จะรออยู่นอกตลาดก่อนการประชุมเฟด
มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1
แม้ตลาดเชื่อว่าเฟดจะตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันอังคารนี้ แต่ก็ไม่ถึงกับมั่นใจ 100% รวมถึงไม่แน่ใจว่าเฟดจะออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจว่าอย่างไร นอกจากนี้ ขณะที่กำลังรอการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสสามของโบรกเกอร์รายสำคัญๆ นักลงทุนจึงยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับขาลงของหุ้นในช่วงฤดูร้อน เงินกู้ยืมซื้อบ้าน และวิกฤติสินเชื่อที่กระทบต่ออุตสาหกรรมธนาคาร
นอกจากความไม่สบายใจดังกล่าวแล้ว ปัจจัยที่ทำให้หุ้นดิ่งลงยังมาจากการที่ นอร์ทเธิร์น ร็อค พีแอลซี ซึ่งเป็นสถาบันปล่อยกู้จำนองรายใหญ่อันดับ 5 ของอังกฤษ ได้ออกคำเตือนเรื่องผลกำไรเมื่อวันศุกร์ และขอให้ธนาคารกลางอังกฤษเข้าโอบอุ้มฐานะกิจการ ด้วยการปล่อยกู้ฉุกเฉินจำนวนหนึ่ง เพื่อให้สถาบันประคองกิจการต่อไปได้ท่ามกลางสถานการณ์ปั่นป่วนในตลาดการเงินโลก ส่งผลให้ลูกค้าของสถาบันถอนเงินหลายพันล้านดอลลาร์ และกระตุ้นให้นักลงทุนสหรัฐเทขายหุ้น โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มการเงิน
คำกล่าวของนายอลัน กรีนสแปน อดีตประธานเฟด เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะประสบภาวะถดถอยท่ามกลางแรงกดดันเรื่องเงินเฟ้อสูง ก็เพิ่มความหวั่นเกรงให้กับตลาดหุ้นนิวยอร์ก ขณะที่มีการปรับลดคนงานที่บริษัทเฟิร์สท แฟรงคลิน ไฟแนนเชียล คอร์ป ในเครือ เมอร์ริล ลินช์ แอนด์ โค
ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเลย ถ้าเฟดเชื่อว่าเศรษฐกิจยังขยายตัวในระดับปานกลางและยังอยู่ในภาวะเงินเฟ้อ แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ก็คาดว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ 5.25% ลงอย่างน้อย 0.25% ขณะที่บางส่วนคาดว่าเฟดจะตัดสินใจลดดอกเบี้ยถึง 0.50% เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นลบในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น อัตราการจ้างงานเดือนส.ค.ที่ลดลง 4,000 ตำแหน่ง และยอดขายปลีกที่ต่ำกว่าคาดการณ์
ไรอัน เดทริก นักยุทธศาสตร์อาวุโสของแชฟเฟอร์ อินเวสเมนท์ รีเสิร์ช กล่าวว่า การปรับลดเพียง 0.25 จะสร้างความผิดหวังให้กับตลาด แต่เขาก็เชื่อว่าเฟดอาจจะไม่ลดลงมากกว่านี้ และเฟดไม่น่าจะระบุในแถลงการณ์ว่าจะมีการปรับลดเพิ่มขึ้น
เขากล่าวด้วยว่า เฟดตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยสูงจะช่วยชะลอราคาทองและน้ำมันที่ทะยานขึ้นในขณะนี้ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยต่ำจะเร่งการเติบโต แต่ก็มีแนวโน้มที่จะทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นไปอีก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ