ดัชนีหุ้นไทยภาคบ่ายไหลลงไปเป็นกว่า 20 จุด กลับมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1,500 จุดอีกครั้ง รับแรงขายทำกำไรหลังจากดีดตัวขึ้นแรงในช่วง 2 วันที่ผ่านมา โดยมีแรงขายนำออกมาในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ปรับขึ้นมาก่อนหน้านี้ ทั้ง EA , GPSC และ GULF รวมถึงมีแรงขายหุ้น DELTA ที่ติดเกณฑ์ Cash Balance ออกมาด้วย ทำให้กดดันภาพรวมการลงทุน สอดคล้องกับทิศทางตลาดในกลุ่ม TIP ทั้งอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ที่ปรับตัวลดลงกว่า 1%
เมื่อเวลา 15.49 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,495.94 จุด ลดลง 10.71 จุด (-0.71%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.11 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,486.28 จุด ลดลง 20.37 จุด (-1.35%)
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ผันผวนจาก Sentiment ฝั่งสหรัฐฯที่ไม่ดี จากความกังวลการเกิด Blue Wave จากนโยบายการขึ้นภาษีในสหรัฐฯ ทำให้เป็นลบต่อตลาดสหรัฐฯ แต่ที่จริงน่าจะเป็นบวกต่อตลาดในภูมิภาคอื่น
ส่วนตลาดบ้านเราก็เผชิญแรงขายทำกำไรออกมาในหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรง อย่างหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า ที่ขึ้นไปเร็วและแรง ส่วนหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ก็ลดช่วงบวกลงมาด้วย นอกจากนี้ดัชนี SET ได้ปรับขึ้นมาเหนือ 1,500 จุด ก็ถือว่าไม่ถูกแล้ว ทำให้มีโอกาสที่จะพักตัวลงมาก่อน อย่างไรก็ดีหุ้นในกลุ่มแบงก์ และกลุ่มสื่อสารมีโอกาสกลับมาเล่นกันได้อีกหลังจากที่ราคาหุ้นยัง Laggard