นายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ (ASAP) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายในปี 64 จะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ จากปี 63 ที่คาดว่าจะมีผลขาดทุนสุทธิ หลัง 9 เดือนแรกขาดทุนสุทธิแล้ว 59.95 ล้านบาท เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการให้เช่ารถยนต์ระยะสั้น และการขายรถยนต์ ตามการชะลอตัวของตลาดรถยนต์มือสอง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในปี 64 สถานการณ์โควิด-19 น่าจะยังส่งผลกระทบต่อเนื่องกับการให้เช่ารถยนต์ระยะสั้น เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ รวมถึงคนไทยเองก็น่าจะมีการเดินทางน้อยลง ทำให้ในครึ่งปีแรกนี้น่าจะได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ แต่ในอีกทางหนึ่งก็มองว่าคนไทยที่ต้องการเดินทางก็จะหันมาใช้รถยนต์ส่วนตัวเดินทางกันมากขึ้น ซึ่งบริษัทก็ถือว่าเป็นทางเลือกอันดับต้น ๆ ในตลาดรถเช่าที่อยู่ในสายตาของคนไทย
ขณะที่บริการรถยนต์ให้เช่าระยะยาวที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ลูกค้านิติบุคคลนั้น ที่ผ่านมาไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และเศรษฐกิจมากนัก เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นการทำสัญญากับลูกค้าระยะยาว โดยปีก่อนยังมีการส่งมอบรถยนต์ใหม่ราว 2,000 คัน ปีนี้ก็เตรียมซื้อรถยนต์เข้ามาใหม่ เพื่อส่งมอบเพิ่มอีก 2,000-3,000 คัน วางงบลงทุนไว้ราว 800,000 บาท/คัน ซึ่งบริษัทมองว่ายังมีความต้องการในตลาดอย่างสม่ำเสมอทั้งภาครัฐและเอกชน ขณะเดียวกันมาร์จิ้นจากการให้เช่ารถยนต์ดังกล่าวก็ปรับตัวสูงขึ้น หลังมีการปล่อยรถเช่าน้อยลง จากการคัดเลือกผู้เช่ามากขึ้น
นอกจากนี้ บริการรถยนต์ให้เช่าผ่านแอปพลิเคชัน (asap App) ที่เน้นขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้ารายย่อย (B2C) ภายใต้แนวคิด asap Mobility Solution เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการรองรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ในปีนี้บริษัทก็มีแผนที่จะขยายตัว หรือพัฒนาบริการให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้บริษัทสามารถเทิร์นอะราวด์ได้
โดยปัจจุบัน asap App ประกอบไปด้วย การจองรถยนต์ให้เช่าระยะสั้น, รถยนต์ให้เช่าตามการใช้งานจริง (asap Go) ที่เปิดให้บริการกับลูกค้าเอกชนมากขึ้น, บริการรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับ (Limosine) รวมไปถึงการให้บริการคนขับเพียงอย่างเดียว โดยแอปพิเคชันดังกล่าวได้เปิดดำเนินการไปแล้วในปีที่ผ่านมา และก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ในปีนี้บริษัทก็จะเพิ่มบริการในส่วนของการขายรถยนต์มือสองเข้าไปในแอปพลิชั่น คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปลายไตรมาส 1/64
ส่วนการขายรถยนต์มือสองในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าการขายรถยนต์มือสองไว้ที่ 3,000 คัน เพิ่มขึ้นจาก 1,000 คันในปีก่อน แม้ราคารถยนต์มือสองจะยังคงผันผวนจากสถานการณ์โควิด-19 แต่บริษัทก็จะหาจังหวะที่ดีในการขาย อีกทั้งยังมีแฟรนไชส์ asap Select ศูนย์บริการให้เช่ารถระยะสั้น และจำหน่ายรถมือสอง ที่ปัจจุบันมีด้วยกัน 6 จุดทั่วประเทศ และปีนี้ตั้งเป้าจะขยายเพิ่มอีก 5 จุด ซึ่งการขายผ่านดังกล่าวถือว่ามีราคาดีกว่าการขายให้กับทางร้านประมูล หรือในรูปแบบ Wholesale
"ปีนี้เราตั้งเป้าว่าจะเทิร์นอะราวด์ให้ได้ จากการให้บริการรถยนต์ให้เช่า และการขายรถยนต์มือสองผ่าน asap App ที่จะชัดเจนมากขึ้น และการควบคุมต้นทุนการซ่อม, ต้นทุนประกันภัย แต่ในขณะที่รายได้ก็คาดว่าคงไม่แตกต่างจากปีก่อนมากนัก เนื่องจากปีนี้มีรถครบเทอมในการให้เช่าอยู่ราว 2,000 คัน บวกกับที่เราจะซื้อเข้ามาทดแทนอีก ก็ทำให้หักล้างกันพอดี แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่จะเข้ามาหนุนรายได้ คือ การขายรถยนต์มือสองที่มากกว่าปีก่อน" นายทรงวิทย์ กล่าว