บมจ.คอมพาสส์ อีสต์ อินดัสตรี้(ประเทศไทย)(CEI)เปิดเจรจาซัพพลายเออร์พัดลมหลายรายเพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายพัดลมติดเพดานเข้ามาทดแทนยอดขายของลูกค้าเก่าที่หดหายไป หวังรักษาธุรกิจเดิมให้กลับมาเติบโต 50% ในงวดปี 51 จากยอดขายปัจจุบันทรงตัวอยู่ราวปีละ 70-80 ล้านบาท ซึ่งยังเน้นขายในประเทศเป็นหลัก
พร้อมไปกับการเดินหน้าหาธุรกิจใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาช่วยเสริมรายได้เพิ่มเติมจากที่จะได้ริเริ่มธุรกิจเครื่องชุบเคลือบผิวที่จะเดินเครื่องผลิตได้ปลายปีนี้หลังสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่เข้ามาแล้ว 4 ตัว โดยอยู่ระหว่างศึกษาธุรกิจลอจิสติกส์และซุปเปอร์สโตร์ แต่ภาพยังไม่ชัดเจน
แหล่งข่าว จาก CEI เปิดเผยว่า บริษัทกำลังมองหาซัพพลายเออร์รายใหม่ที่จะเข้ามาจำหน่ายสินค้าของ CEI นอกเหนือจากรายเดิม เนื่องจากรายเดิมทำยอดขายช้าลงโดยเฉพาะในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมายอดขายชะลอตัวลงมาก จึงจำเป็นต้องหารายอื่นเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้
"สาเหตุที่ลูกค้ามียอดขายล่าช้าเนื่องจากบริษัทมีนโยบายให้ฝากขายก็เหมือนกับการติดตามหนี้ช้าไปด้วย และที่ผ่านมาลูกค้านำเข้ามาเองด้วยทำให้ยอดสั่งซื้อเราลดลง ทำให้เราต้องมองหาซัพพลายเออร์รายใหม่เข้ามา"แหล่งข่าว กล่าว
เมื่อมีซัพพลายเออร์ใหม่เข้ามาก็น่าจะช่วยเพิ่มยอดสั่งซื้อสินค้าประเภทพัดลมให้มากขึ้น แม้จะไม่สามารถทดแทนลูกค้ารายใหญ่เดิมคือ ฮันเตอร์ แฟน ของจีน ที่ยกเลิกสั่งซื้อสินค้าของบริษัทไปตั้งแต่ปี 49 แต่ก็น่าจะทำให้ยอดขายในปี 51 เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 50% จากปี 50 ที่คาดว่าจะมียอดขาย 70-80 ล้านบาท
"ที่ตั้งเป้ายอดขายปี 51 โต 50% เพราะมั่นใจว่าตอนนี้เรามีซัพพลายเออร์รายใหม่ด้วย"ผู้จัดการฝ่ายบัญชี กล่าว
พร้อมกันนั้น บริษัทยังเชื่อว่าหากมีวอลุ่มเข้ามามากขึ้น ก็จะส่งผลดีต่ออำนาจการต่อรองกับผู้ผลิตในจีนที่ส่วนใหญ่บริษัทได้สั่งผลิต ซึ่งจะทำให้ต้นทุนของบริษัทต่ำลงและสามารถแข่งขันได้ดีขึ้น
สำหรับผลประกอบการงวดปี 50(ส.ค.49-ก.ค.50)คาดว่าจะพลิกสถานการณ์เป็นกำไร จากงวดปี 49 บริษัทขาดทุน 385.13 ล้านบาท เนื่องจากมีกำไรจากการขายสินทรัพย์ที่เคยบันทึกด้อยค่าไปแล้วกลับเข้ามาในงบการเงิน ส่วนรายได้จากธุรกิจพัดลมอาจจะทรงตัวจากปีก่อน แม้ยอดขายจะลดลงไป แต่ค่าใช้จ่ายก็น้อยลงไปมากด้วย เทียบแล้วน่าจะทำให้บริษัทมีอัตรากำไรมากกว่าปี 49
"ขณะนี้กำลังจัดทำงบการเงินปี 50 เพราะปิดงวดปีสิ้น 31 ก.ค.50 งบปีนี้คาดว่าจะมีกำไรเนื่องจากมีกำไรมาจากการขายสินทรัพย์ที่มีการบันทึกค่าด้อยค่าไปแล้วตั้งแต่ปีก่อนหน้า เมื่อมีการขายตรงนี้ได้ก็บวกกลับมาเป็นกำไร" ผู้จัดการฝ่ายบัญชี กล่าว
ทั้งนี้ ไตรมาส 3/50 สิ้นสุดวันที่ 30 เมษายน 2550 ผลการดำเนินงานของบริษัทรวมบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 35.53 ล้านบาท แต่ในรอบระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนมีผลขาดทุนสุทธิ เท่ากับ 319.19 ล้านบาท
*เริ่มผลิตเครื่องชุบเคลือบผิวปลายปีนี้ น่าจะได้เห็น 1 เครื่องในปีนี้
แหล่งข่าวจาก CEI กล่าวว่า แม้ว่าผู้บริหารมองธุรกิจเดิมคือผลิตพัดลมติดเพดานยังพอไปได้และแนวโน้มน่าจะดี แต่ก็ไม่สามารถชดเชยยอดรายได้ที่หายไปจากในอดีต จึงมองหาธุรกิจอื่น ๆ เพิ่มเข้ามาเสริมรายได้ ทั้งประเภทลอจิสติกส์ ธุรกิจซุปเปอร์สโตร์ ซึ่งอยู่ระหว่างหารือ
ส่วนธุรกิจใหม่คือการผลิตเครื่องชุบเคลือบผิว(HORIZONTAL PLATING MACHINES)เพื่อใช้ในแผงวงจรอิเล็คโทรนิคส์สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในปลายปีนี้ เนื่องจากเป็นการผลิตตัวเครื่องจักรเหมือนกันจะใช้เวลาในการผลิตประมาณ 3-4 เดือนต่อเครื่อง แต่ละเครื่องมีมูลค่าสูงมาก
"เครื่องเคลือบชุบผิวตอนนี้มีบุคลากรเข้ามาทำหลายคนแล้ว งบลงทุนเบื้องต้นอยู่ประมาณ 35 ล้านบาท เป็นการซื้อเครื่องจักรที่มีเข้ามาติดตั้งแล้ว 4 เครื่อง โดยปีนี้น่าจะได้เห็นการผลิตที่ 1 เครื่องก่อน"แหล่งข่าว
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--