ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงรุนแรงเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานที่ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวเร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ รวมทั้งยิ่งเป็นการเพิ่มแรงกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ดิ่งลง 122.1 จุด หรือ 1.93% ปิดที่ 6,191.2 จุด ใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดของวันที่ 6,179.10 จุด และต่ำกว่าระดับสูงสุดของวันที่ 6,342.7 ประมาณ 160 จุด ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยที่ 2.7 พันล้านหุ้น
ตัวเลขจ้างงานสหรัฐที่ลดลง 4,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2546 นั้น เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ตลาดการเงินกำลังเผชิญความวุ่นวายอย่างหนักจากวิกฤตสินเชื่อที่ขยายตัวเป็นวงกว้าง โดยนักวิเคราะห์บางส่วนกล่าวว่า รายงานตัวเลขจ้างงานดังกล่าวจะยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดการเงินและหุ้น
รายงานตัวเลขจ้างงานของสหรัฐเป็นปัจจัยฉุดดัชนีให้ร่วงลงในวันนี้ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นบาร์เคลย์ส ร่วงลง 4.2% อัลไลแอนซ์ แอนด์ เลสเตอร์ ร่วง 4.1% รอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ ลบ 4.7%
ขณะที่หุ้นการเงิน โภคภัณฑ์ และหุ้นบริษัทที่อ่อนไหวตามเศรษฐกิจสหรัฐ ก็อยู่ภายใต้แรงกดดันในวันนี้
โดยกลุ่มเฮดจ์ฟันด์ แมน กรุ๊ป ขยับลง 3.2% ผู้จัดการกองทุน อินเวสโค ลบ 3.6% และบริษัทประกัน โอลด์ มูชวล ร่วง 5.3%
หุ้นเหมือง ได้แก่ บีเอชพี บิลลิตัน ร่วง 2.6% เอ็กซ์สตราตา ร่วง 4.2% และ ริโอ ตินโต ร่วง 3.3%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--