(เพิ่มเติม) TT&T ตั้งเป้าปี 50 พลิกเป็นกำไรจากธุรกิจบรอดแบนด์-FX/ปีหน้ารุกตลาดกทม.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 4, 2007 16:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ.ทีทีแอนด์ที(TT&T)ตั้งเป้าปีนี้เริ่มพลิกมามีกำไร โดยคาดว่ารายได้รวมปีนี้จะเพิ่มขึ้นมาที่ 7 พันล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่ธุรกิจบรอดแบนด์มีรายได้เพิ่มขึ้น ประกอบกับบริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน จากปี 49 ที่มีผลการดำเนินงานขาดทุนถึง 1.08 พันล้านบาท
นายไพศาล กวียานันท์ ผู้อำนวยการสายงานการตลาดและบริการ TT&T กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจะยังมีรายได้หลักมาจากโทรศัพท์พื้นฐาน(Fixed line) จำนวนประมาณ 4 -5 พันล้านบาท ส่วนธุรกิจบรอดแบนด์คาดจะมีประมาณ 2 พันล้านบาท
"เป้าหมายเราปีนี้จะไม่ขาดทุน ตลาด Fixed line ลดลงไปตามแนวโน้มตลาดโลก แต่ปีนี้ ARPU ทรงตัวจากปีก่อนที่ 300 กว่าบาทต่อเลขหมาย แต่บรอดแบรนด์จะช่วยเพิ่มรายได้มากขึ้น และเราก็มีการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายอื่นๆ" นายไพศาลกล่าว
ปัจจุบัน บริษัทมีลูกค้าบรอดแบนด์อยู่ที่ 2 แสนราย คาดว่าจะเพิ่มเป็น 3 แสนรายภายสิ้นปีนี้ และเพิ่มเป็น 5 แสนรายในปีถัดไป โดยบริษัทได้ลงทุนขยายเครือข่ายบรอดแบนด์ถึง 100 ล้านบาทในปีนี้ และปีหน้าก็มีแผนจะลงทุนเพิ่มเป็น 200 ล้านบาท
ตลาดรวมธุรกิจบรอดแบนด์ในประเทศไทยขณะนี้มี 8 แสนราย โดยบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 20% ของตลาดรวม และคาดว่าถึงสิ้นปีนี้ตลาดรวมจะเพิ่มเป็น 1 ล้านราย และบริษัทคาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 30% โดยจะยังรักษาส่วนแบ่งการตลาดดังกล่าวไว้ในปี 51 ที่คาดว่าตลาดรวมจะมีขนาด 1.5 ล้านราย
นายไพศาล กล่าวว่า ในปีหน้า บริษัท ทีทีแอนด์ที ซับไครเบอร์ เซอร์วิสเซส จำกัด (TT&T SS) มีแผนที่จะรุกตลาดบรอดแบนด์ในกทม. จากปัจจุบันที่ทำการตลาดในในต่างจังหวัดเท่านั้น โดยจะทำการตลาดผ่านบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบรนด์ (TTT) ซึ่ง TT&T ถือหุ้น 10% ได้วางโครงข่ายในกทม.ด้านโซนเหนือแล้ว เช่น ย่านแจ้งวัฒนะ รังสิต
นส.จุไรรัตน์ อุณหกะ ผู้จัดการทั่วไป TT&T SS ซึ่ง TT&T ถือหุ้น 100% คาดว่า ในปี 50 รายได้ของ TT&T SS จะถึง 3 พันล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนที่มีรายได้ 1 พันล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิ 10% จากที่ขาดทุน 200-300 ล้านบาทในปีก่อน จากการที่บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ตลาด โดยได้ปรับความเร็วพิเศษให้กับลูกค้าบรอดแบนด์หรือ Maxnet เพิ่มเป็น 1 Mbps ภายในก.ย.นี้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ส่วนลูกค้าใหม่ที่สมัครภายใน 31 ธ.ค.50 ก็จะได้รับสิทธิเช่นกัน ในราคาเดียวกัน 590 บาทต่อเดือน
ปัจจุบันบริษัทมีรายได้ต่อรายประมาณ 800 บาทต่อเดือน และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 20% แต่คาดว่าจะปรับลงเหลือ 15% หลังจากปรับความเร็วเพิ่มขึ้นโดยไม่เพิ่มราคา
"ของเราถ้ายอดถึง 2 แสนรายก็ถึงจุดคุ้มทุนไปแล้วที่เหลือจะเป็นกำไร และเราก็มีไลเซ่นส์อินเตอร์เน็ต เกตเวย์ แล้วที่จะช่วยเพิ่ม Bandwidth มากขึ้นทำให้เรามีบริการครบวงจร" นส.จุไรรัตน์กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทจะเริ่มให้บริการบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ได้แก่ การสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Voice over IP:VOIP) ที่มีลูกค้าแล้วประมาณ 6 พันราย , การให้บริการด้าน IPTV ที่รับชมรายการต่างๆจากทีวีผ่านอินเตอร์เน็ต หรือ Triple Play ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงทดลอง และเริ่มทำตลาดในครึ่งปีหลัง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ