NWRคาดรายได้ปี50 พลาดเป้า4พันลบ.-ขาดทุนต่อ,เร่งหางานตปท.เติมให้เต็ม30%

          บมจ.เนารัตน์พัฒนาการ(NWR)คาดรายได้ปี 50 พลาดเป้าที่ 4 พันล้านบาทและยังขาดทุนต่อเนื่องจากปีก่อน พร้อมยอมรับแผนล้างขาดทุนสะสมที่มีกว่า 900 ล้านบาทคงยังเริ่มไม่ได้ในปีนี้ เพราะไม่มีกำไรมาหักล้าง 
          ขณะที่บริษัทกำลังเร่งหางานต่างประเทศเข้ามาเพิ่ม หลังสัดส่วนงานต่างประเทศในไตรมาส 3/50 ลดลงเหลือ 15% จาก 30% ในไตรมาส 2/50 โดยการจับมือบมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) เพื่อรับงานที่ดูไบอยู่ระหว่างหาพันธมิตรเข้ามาร่วมถือหุ้น 51% ในบริษัทย่อย คาดว่าจะรู้ผลในเดือน ต.ค.นี้ โดยเน้นรับงานสาธารณูปโภคขนาดใหญ่
          ด้านที่กาตาร์ยังรอผลประมูลงานถนน และสะพาน คาดงานแรกน่าจะเริ่มเข้ามาภายในปลายปีนี้ ส่วนงานสร้างสะพานในกัมพูชา มูลค่า 480 ล้านบาท น่าจะรับรู้รายได้บางส่วนทันทีในปีนี้
          สำหรับแผนขยายธุรกิจไปถึงอาฟริกาเหนือในปี 51 อยู่ระหว่างศึกษารูปแบบการลงทุน โดยอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรจากมาเลเซีย เกาหลี และออสเตรเลีย เพื่อจัดตั้งบริษัทย่อย หรือไม่ก็อาจปรับรูปแบบไปเป็นเพียงแค่มือปืนรับจ้างเท่านั้น
*งานใหม่ลดวูบกระทบเป้ารายได้ปีนี้
          นายวัชรพัธ วัชราภัย ผู้จัดการทั่วไปแผนกธุรกิจใหม่และวางแผนกลยุทธ์ฝ่ายการเงิน NWR เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์" ว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้บริษัทมีงานใหม่เข้ามาเพียงพันกว่าล้านบาท จากปกติแต่ละปีจะมีงานใหม่เข้ามาในระดับ 3-4 พันล้านบาท จึงน่าจะกระทบเป้ารายได้ในปีนี้ที่ตั้งไว้สูงถึง 4 พันล้านบาท  
          "ภาพรวมรายได้อาจจะน้อยกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 4 พันล้าน เพราะงานใหม่เข้ามาน้อย ปกติปีนึงเราต้องได้งานใหม่ 3-4 พันล้านบาท แต่ตอนนี้ผ่านมา 9 เดือนแล้วเพิ่งจะมีงานเข้ามาเพียงพันล้านเอง แต่คงพลาดเป้าไม่เยอะ เพราะส่วนใหญ่รายได้ที่รับรู้ในปีนี้คืองานที่ได้ตึ้งแต่ปีที่แล้ว"นายวัชรพัธ กล่าว
          รวมทั้งคาดว่าปีนี้บริษัทยังไม่สามารถพลิกสถานการณ์จากขาดทุนสุทธิในปีก่อนมามีกำไรอย่างแน่นอน เนื่องจากครึ่งปีแรกขาดทุนอยู่กว่า 600 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ยังไม่สามารถล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 940 ล้านบาทด้วย  
          "และคิดว่าปีนี้คงจะขาดทุนต่อ ส่วนขาดทุนสะสมที่มีอยู่กว่า 900 ล้านนั้นถึงสิ้นปีนี้ก็คงจะไม่ลดลง เพราะยังไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่มีแผนล้างขาดทุน เพราะยังไม่มีกำไรมาล้าง แต่ถึงขาดทุนสะสมจะมีมากเกือบๆ พันล้านบาท แต่ก็ไม่กังวล เพราะไม่ได้ขาดทุนจนเกินทุน เราต้องขาดทุนประมาณ 3 พันล้านบาทถึงจะมีปัญหากับตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งยังไงเราก็ไม่ปล่อยให้ขาดทุนสะสมถึง 3 พันล้านบาทแน่นอน"นายวัชรพัธ กล่าว
          งวด 30 มิ.ย.50 NWR มีรายได้ 1,931.82 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 625.88 ล้านบาท ขณะที่บริษัทแจ้งว่าไตรมาส 2/50 มียอดค้างชำระของลูกหนี้การค้าที่เกินกว่า 1 ปี 469 ล้านบาท จากยอดหนี้ 755 ล้านบาท
*เร่งหางานตปท.เติม หลังสัดส่วนลดลงเหลือ 15% จาก 30% ใน Q2/50 
          นายวัชรพัธ กล่าวว่า บริษัทกำลังเร่งหางานต่างประเทศเข้ามาเพิ่มเติม เนื่องจากใน Backlog ประมาณ 7 พันล้านบาท เป็นงานในประเทศ 85% งานต่างประเทศ 15% ซึ่งลดลงจากไตรมาส 2/50 ที่งานต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วน 30% โดยคาดว่าภายในปีนี้น่าจะมีงานใหม่ในต่างประเทศเข้ามาเพิ่มบ้าง 
          "สาเหตุที่งานต่างประเทศลดลง เนื่องจากงานที่ได้มาทยอยเสร็จและส่งมอบไปเรื่อยๆ ขณะที่บริษัทยังไม่มีงานใหม่ๆเข้ามา เพราะไม่ใช่งานสาธารณูปโภคอย่างที่ถนัด"นายวัชรพัธ กล่าว
          ช่วงที่ผ่านมาบริษัทเน้นการเข้าประมูลงานใหม่ในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชาอยู่เรื่อยๆ คิดเป็นมูลค่างานที่เข้าประมูลรวมประมาณ 7 หมื่นล้านบาท รวมถึงการเข้าไปลงทุนในประเทศใหม่ๆ เพื่อให้สัดส่วนงานในต่างประเทศกลับมาเติมให้เป็น 30% เหมือนเดิม
          นายวัชรพัธ กล่าวว่า บริษัทกำลังหาพันธมิตรที่จะมาถือหุ้น 51% กับบริษัทย่อยที่ดูไบเพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการรับงานใหม่คาดว่าจะรู้ผลในเดือน ต.ค.นี้ โดยสัดส่วนหุ้นที่เหลือจะเป็นการถือโดยบริษัทย่อยที่ NWR และ บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD)ร่วมกันจัดตั้งขึ้นมาในสัดส่วน 40:60 ซึ่งได้เข้าไปรับงานแล้ว 450 ล้านบาท สร้างเสร็จและส่งมอบไปแล้ว 400 ล้านบาท เหลืออีกประมาณ 50 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้ในปีนี้ ส่วนงานใหม่ยังไม่มีเข้ามา 
          "ที่ดูไบก็มีเปิดให้ประมูลตลอดเวลา แต่เรายังไม่เข้า เพราะเป็นงานที่ไม่เหมาะกับเรา เรารองานที่เป็นงานถนน รถไฟฟ้าซึ่งมีขนาดพอสมควร เพราะไปกับ ITD ก็ต้องเลือกงานใหญ่หน่อย และยิ่งถ้ามีพันธมิตรเป็นคนในพื้นที่จะยิ่งทำให้เราคล่องตัวในการรับงานมากขึ้น"นายวัชรพัธ กล่าว
          ส่วนประเทศกาตาร์ซึ่งมีการตั้งบริษัทย่อยไว้แล้ว คาดว่างานแรกน่าจะเริ่มเข้ามาภายในปลายปีนี้ เน้นงานสาธารณุปโภค ถนน และสะพานตามถนัด
          "อยู่ที่ว่าจะเริ่มประมูลเมื่อไหร่ แต่คาดว่าไตรมาส 4 น่าจะเริ่มมีงานแรกเข้ามา เพราะตอนแรกบอกจะประมูล ส.ค. แต่กว่าจะตัดสิน กว่าจะรู้ผลก็ต้องใช้เวลาอีก 3 เดือน"นายวัชรพัธ กล่าว
*คาดแอฟริกาเหนือ ชัดเจนปี 51
          นายวัชรพัธ กล่าวถึงการขยายธุรกิจไปยังอาฟริกาเหนือ ซึ่งเป็นเป้าหมายใหม่ที่ NWR สนใจจะเข้าไปลงทุนและรับงานว่า คาดว่าปี 51 คงจะได้เห็น อาจจะหาพันธมิตรที่มีบริษัทอยู่แล้ว หรืออาจจะไปในรูปแบบการรับค่าจ้างเพียงอย่างเดียว ซึ่งเบื้องต้นก็ได้มีการเจรจากับพันธมิตรที่ประเทศมาเลเซียบ้างแล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีเจรจากับบริษัทจากเกาหลี และออสเตรเลียด้วย
          "ยังไม่แน่ว่าจะลงตัวที่รายใด ใครมาเราก็คุยด้วย แต่คาดว่าปีหน้าน่าจะเริ่มมีงานในแอฟริกาเข้ามา เพราะดูไว้หลายงาน แต่อาจจะได้แน่ๆ สักงานนึง"นายวัชรพัธ กล่าว      
*รับรู้รายได้ก้อนใหญ่จากงานสร้างสะพานในกัมพูชาปี 51
          นายวัชรพัธ กล่าวถึงงานโครงการก่อสร้างสะพาน Prek Pnov Bridge ข้าม Tonle Sap River ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา มูลค่าประมาณ 480 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้เพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่จะไปรับรู้ในปี 51-52 
          NWR เพิ่งจะจัดตั้งบริษัทย่อย ชื่อ NWR (Cambodia) Company Limited ทุนจดทะเบียนเริ่มแรก USD 1,000  โดย NWR จะถือร้อยละ 100 วัตถุประสงค์เพื่อรับงานบริหารโครงการก่อสร้าง และงานควบคุมโครงการก่อสร้างที่ประเทศกัมพูชา
          "ความจริงเราเข้าไปรับงานในกัมพูชามานานแล้ว แต่เพิ่งจะมีการตั้งบริษัทอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะทำให้แผนงานคล่องตัวมากขึ้น ยิ่งถ้าเป็นงานที่เจาะจงว่าไม่ให้บริษัทต่างชาติทำ แต่บริษัทนี้ก็ยังทำได้ ซึ่งคงจะเน้นงานภาครัฐ พวกงานถนน สะพานเป็นหลัก"นายวัชรพัธ กล่าว
          ปัจจุบันงานในประเทศกัมพูชา คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 5% ของรายได้ NWR