นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) คาดว่าแนวโน้มรายได้ปี 64 เติบโตราว 8-10% จากปีก่อน ตามกำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้น 8-10% เนื่องจากในช่วงปลายปี 63 ต่อเนื่องถึงต้นปี 64 มีการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต Olefins Reconfiguration Project (ORP) เป็นการขยายกำลังการผลิตเอทิลีน 5 แสนตัน/ปี และโพรพิลีน 2.5 แสนตัน/ปี , โครงการโพรพิลีนออกไซด์ (PO) และโครงการโพลีออลส์ (Polyols) เพื่อผลิต PO 2 แสนตัน/ปี และผลิตภัณฑ์โพลีออลส์ 1.3 แสนตัน/ปี
ส่วนด้านราคาผลิตภัณฑ์นั้น ยังต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านเศรษฐกิจ และทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกด้วย ซึ่งกลุ่ม บมจ.ปตท. (PTT) ประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบในปี 64 ไม่ต่ำกว่า 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น แม้จะส่งผลกระทบต่อหลายธุรกิจทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว แต่บริษัทยังมองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อกิจการ (M&A) เพราะจะทำให้ได้ราคาที่ไม่แพง โดยการซื้อกิจการยังเป็นเป้าหมายสำคัญต่อการขยายการลงทุนในปีนี้เพื่อต่อยอดไปยังผลิตภัณฑ์ขั้นปลาย
นายคงกระพัน เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเข้าซื้อกิจการที่บริษัทยังไม่มีสายการผลิต เช่น โรงงานเม็ดพลาสติก High Performance Product เพื่อให้สามารถขยายตลาดเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้างได้รวดเร็วขึ้น โดยคาดว่าจะได้เห็นการซื้อกิจการภายในปี 64
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในปีนี้ยังต้องคำนึงถึงภาวะเศรษฐกิจภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย และให้ความระมัดระวังเรื่องกระแสเงินสด โดยเบื้องต้นปีนี้มีงบลงทุนต่อเนื่องอยู่ราว 3-5 หมื่นล้านบาท ซึ่งยังไม่นับรวมดีลการซื้อกิจการ
ส่วนความคืบหน้าโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ ในสหรัฐ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรรายใหม่ 2-3 ราย หลังจากที่ Daelim Industrial Co.,Ltd. (DAELIM) พันธมิตรจากเกาหลีใต้ ได้ถอนตัวออกไป โดยมีตั้งเป้าหมายจะได้ข้อสรุปการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) ในกลางปี 64