ACLเดินหน้าขยายสินเชื่อระหว่างรอ BBLสรุปขายหุ้น/โบรกฯเก็ง CIMB มีสิทธิ

          ธนาคารสินเอเซีย(ACL)ระบุว่าการเจรจาขายหุ้นเป็นความรับผิดชอบของธนาคารกรุงเทพ(BBL)หลังจากล่าสุดมีธนาคารต่างประเทศทั้ง CIMB Group จากมาเลเซียและ ICBC จากจีนแสดงความสนใจเข้ามาซื้อหุ้นในส่วนของ BBL ถืออยู่ ขณะที่การดำเนินงานของ ACL ยังคงเดินไปตามปกติเพื่อไปสู่เป้าหมายยอดคงค้างสินเชื่อเติบโตเป็น 3.5-3.6 หมื่นล้านบาทในปีนี้ 
          แหล่งข่าวจาก ACL เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงการบริหารและการดำเนินธุรกิจ เพราะ BBL ยังไม่มีข้อสรุปใด ๆ ในการเจรจาขายหุ้นที่ปัจจุบัน BBL ถืออยู่ในสัดส่วน 19.3%  
          "คงจะต้องรอให้ของแบงก์กรุงเทพดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อยก่อนแล้วค่อยมาดูกันว่าจะเป็นอย่างไร ตอนนี้ยังบอกอะไรไม่ได้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปทางไหน อย่างไร หรือไม่ ธนาคารยังคงดำเนินธุรกิจตามปกติ"แหล่งข่าวจาก ACL กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
          แหล่งข่าวจาก ACL เปิดเผยว่า ปีนี้ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น 1.5 หมื่นล้านบาท หรือ 4-5% เมื่อเทียบจากปี 49 ที่มียอดคงค้างสินเชื่อ 2 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมาย หลังจากครึ่งปีแรกปล่อยสินเชื่อไปแล้วประมาณ 5 พันล้านบาท คาดว่าครึ่งปีหลังจะปล่อยสินเชื่อได้มากกว่าครึ่งปีแรก 
          ธนาคารยังมุ่งเน้นปล่อยเชื่อให้กับกลุ่มธุรกิจเป็นหลัก ทั้งธุรกิจขนาดใหญ่, ขนาดกลาง, ขนาดย่อม และธุรกิจสาขา 
          แหล่งข่าว กล่าวว่า ธนาคารไม่มีภาระต้องกันสำรองเพิ่มตามเกณฑ์ IAS39 ในช่วงที่เหลือของปีนี้ เนื่องจากสำรองไว้ครบจำนวนแล้ว และขณะนี้ธนาคารมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงสูงถึง 35.15% เป็น Tier 1 มี 34.63% และ Tier 2 มี 6.52%
          ขณะที่วงการโบรกเกอร์ มองว่า โอกาสที่ CIMB จะเข้ามาซื้อหุ้น ACL มีความเป็นไปได้มากกว่า เพราะที่ผ่านมาภาคธุรกิจมาเลเซียสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น โดยในช่วงที่ผ่านมาปิโตรนาส ซึ่งเป็นธุรกิจของทางการมาเลเซียก็ได้เข้ามาขยายธุรกิจอย่างจริงจัง  และก่อนหน้านี้ก็มีกระแสข่าวว่าสถาบันการเงินมาเลเซียก็สนใจเข้ามาขยายธุรกิจในไทยเช่นกัน 
          ด้านสถาบันการเงินจีนนั้น โอกาสน่าจะมีน้อยกว่า เนื่องจากขณะนี้ธุรกิจขนาดใหญ่จากจีนยังไม่ค่อยเข้ามาลงทุนในไทยอย่างจริงจัง แม้จะมีกระแสข่าวจากทางการว่าภาคธุรกิจจีนสนใจเข้ามาลงทุน แต่เชื่อว่าด้วยการที่ฝ่ายจีนมีเงื่อนไขค่อนข้างมากจึงทำให้มีการลงทุนจริงเพียงเล็กน้อย และไม่ใช่ธุรกิจขนาดใหญ่