นายซุง ชง ทอย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) (SFT) เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมการผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูปของประเทศไทยในปีนี้ มีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3% ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย หลังคาดการณ์ว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นส่งผลดีต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในครัวเรือน ซึ่งเป็นกลุ่มฐานลูกค้าหลักของบริษัท โดยพบว่ากลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าว มีแผนพัฒนาสินค้าและออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น
จากการที่บริษัทมีขีดความสามารถและศักยภาพการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในการผลิตฟิล์มหดรัดรูปด้วยระบบการพิมพ์แบบกราเวียร์และดิจิทัล ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทได้ร่วมมือวางแผนการผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูปให้สอดคล้องกับแผนทำตลาดของลูกค้าตลอดทั้งปี จึงส่งผลให้การผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูปของบริษัท มีส่วนแบ่งทางการตลาด (Market Share) ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้สามารถรองรับการขยายกำลังการผลิตฟิล์มหดรัดรูปเพื่อรองรับออร์เดอร์ลูกค้าในปี 2564 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้ลงทุนซื้อเครื่องจักรผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูปด้วยระบบการพิมพ์แบบกราเวียร์เพิ่มอีก 1 ไลน์ผลิต ช่วยเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกประมาณ 33 ล้านเมตร โดยคาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จพร้อมเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 2 ของปีนี้
ขณะเดียวกัน บริษัทยังบริหารความเสี่ยงการนำเข้าจากวัตถุดิบจากต่างประเทศ โดยเพิ่มปริมาณสต็อกวัตถุดิบให้เพียงพอต่อการผลิตเป็น 6 เดือนจากเดิม 3 เดือน ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะการขาดแคลนตู้คอนแทนเนอร์ที่เกิดขึ้นอยู่ในหลายประเทศ ตลอดจนมีการบริหารจัดการค่าเงินจากอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อสร้างความได้เปรียบที่เอื้อต่อการจัดการต้นทุนการผลิต ทำให้สามารถทำกำไรขั้นต้นให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง
"ปีนี้เป็นปีที่ดีของ SFT ที่จะเห็นการเติบโตก้าวกระโดดหรือเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 15-20% จากความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้ารายใหม่ๆ รวมถึงลูกค้ารายเดิมที่มีคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปเพิ่มขึ้น ทำให้เราต้องเร่งลงทุนเพิ่มไลน์การผลิตในระหว่างที่รอดำเนินการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ จึงมั่นใจว่าด้วยแผนงานของเรานั้นจะทำให้ SFT สามารถบริหารการผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูปเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด" นายซุง ชง ทอย กล่าว